ปารีณา ไม่จบ! ขู่ฟ้อง รองเลขาฯป.ป.ช. ถ้าพูดไม่ระวัง แจงโดน 3 ข้อหา

224
แชร์ข่าวนี้

ปารีณา ไม่จบ ขู่ฟ้อง รองเลขาธิการ ป.ป.ช. หากพูดไม่ระวัง ชี้ กฎหมายเปิดช่องให้ประชาชนฟ้องได้ แจงโดน 3 ข้อหา ไม่มีปกปิดทรัพย์สิน

วันที่ 9 ก.ย. น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ชี้แจงเรื่องป.ป.ช. สรุปสั้นๆว่า ตอนนี้ถูกกล่าวหาเพียงข้อหาเดียวเท่านั้น คือ จงใจแจ้งทรัพย์สินเท็จ โดยแบ่งเป็น 3 ประเด็นดังนี้

1.ตนแจ้งว่านายประทีป มีพรบูชา กู้เงินไป 7,700,000 บาท แต่นายประทีปบอกว่าไม่ได้กู้ ป.ป.ช.จึงกล่าวหาว่าจงใจแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ซึ่งตนเตรียมเอกสารสัญญาเงินกู้ เอกสารการโอนลอยบ้านและที่ดิน เอกสารเช็กเพื่อชำระเงินและเอกสารแจ้งความพ.ร.บ.เช็ก เพราะเช็กที่ชำระเด้ง ไปมอบให้แก่ป.ป.ช.

2.แจ้งราคา ชื่อ พร้อมรูปลักษณ์ของพระสมเด็จที่อดีตสามีเคยมอบให้ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง อาจมีราคาสูงเกินจริง มีเจตนาจงใจแจ้งทรัพย์สินเท็จ ซึ่งอดีตก่อนแต่งงาน ตนไม่เคยแจ้งว่ามีพระ จนกระทั่งมาแต่งงานกับอดีตสามี และอดีตสามีได้มอบพระให้ตน และบอกว่าพระองค์นี้ชื่ออะไร ราคาเท่าไหร่ ยินดีพร้อมให้ตรวจสอบพระเครื่องดังกล่าว

และสิ่งที่ ป.ป.ช.ให้ความสนใจที่สุดคือเรื่องราคา โดยขอยืนยันว่า ไม่เคยตีราคาให้สูงเกินจริง เพื่อเป็นประโยชน์ในทางพาณิชย์ ไม่เคยมีการนำพระไปให้เซียนตีราคา หรือพยายามจำหน่าย ตั้งใจจะมอบพระเครื่องดังกล่าวให้กับลูกชาย เพราะลูกชายได้รับอุบัติเหตุบ่อย และสามีเคยมอบพระองค์เล็กๆ ให้ลูกชายแต่เอาคืนไปแล้ว เพราะตอนนั้นลูกชายยังเด็ก กลัวหาย เลยตั้งใจว่าถ้าโตขึ้นจะเอาพระดังกล่าวให้ลูกชาย เพื่อเป็นสิริมงคล

3.ที่ดิน ภบท. 5 ตนเข้ามาครอบครองและเริ่มชำระภาษีดอกหญ้าตั้งแต่ประมาณปี 2553 ตามเอกสารที่เคยยื่นให้กับ ป.ป.ช.ไปแล้ว แต่เนื่องจากเลขาฯ ได้จัดเตรียมเอกสารผิดพลาด โดยนำเอาที่ดิน ภบท. 5 พื้นที่เดียวกันนี้ แต่เป็นผู้ครอบครองคนอื่นหรือผู้ครอบครองก่อนที่ไม่ใช่ตน ส่ง ป.ป.ช.ไปด้วย และด้วยหมายเลข ภบท. 5 ของพื้นที่เดียวกัน จะเปลี่ยนแปลงเลขที่ๆ ดิน ทุก 4 ปี เพราะป่าไม้เข้ามาสำรวจพื้นที่พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้านทุก 4 ปี จึงทำให้เลขแปลงมีการเปลี่ยนแปลงทุก 4 ปี

ซึ่งเอกสารดังกล่าวคัดสำเนามาจาก อบต. และที่ดิน ภบท.5 ที่แจ้ง ไม่ได้บวกรวมมูลค่าที่ดินเข้าไปในทรัพย์สินของตน ไม่ได้บวกรวมจำนวนพื้นที่ๆ ดินประเภท โฉนด น.ส.3 ก ของตนในจังหวัดอื่นๆ แต่เหตุที่ต้องแจ้งเพราะ ป.ป.ช.มีหนังสือ และได้มาสัมมนาที่พรรคพลังประชารัฐ ขอความร่วมมือให้ช่วยแจ้งหากผู้แทนครอบครองที่ดิน ภบท.5 ซึ่งมีผู้แทนหลายคนได้แจ้งที่ดิน ภบท.5 ให้กับป.ป.ช.เช่นเดียวกับตน ต่างตรงที่ยังไม่มีผู้ใดถูกกล่าวหาหรือดำเนินคดีโดย ป.ป.ช.หรือหน่วยงานใดๆ

น.ส.ปารีณา กล่าวต่อว่า สุดท้ายเรื่องความผิดจริยธรรมร้ายแรง ข้อหาบุกรุกป่า ทางป.ป.ช.ได้ส่งสำนวนทั้งหมดคืนให้กับ บก.ปทส.ไปแล้ว เพราะไม่ใช่หน้าที่ของ ป.ป.ช. อีกทั้งในช่วงที่ตนครอบครองที่ดินดังกล่าว ตนไม่ได้เป็นส.ส. จึงไม่มีความผิดเกี่ยวข้องกับที่ดิน และไม่เคยใช้อำนาจหน้าที่ในการเข้าไปทำกิน ใช้แต่ตัง ถึงตอนนี้ ตนยังไม่รับหมายหรือข้อกล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรงใดๆ

“รองเลขาธิการ ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งว่า จะมีการกล่าวหา เรื่องปกปิดทรัพย์สิน ซึ่งถึงตอนนี้ข้อกล่าวหาในเรื่องทรัพย์สินมีเพียง 3 ข้อที่กล่าวไป ยังไม่มีข้อหาอื่นใดอีก จึงฝากท่านรองเลขาธิการฯป.ป.ช.ด้วยว่า การให้สัมภาษณ์ควรเป็นไปด้วยความระมัดระวัง เพราะวันนี้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เปิดโอกาสให้ฟ้อง ป.ป.ช.ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการทำหน้าที่ หรือประเด็นการพูดจนทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย” น.ส.ปารีณา ระบุ

 

cr. ข่าวสด


แชร์ข่าวนี้