เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 14 ก.ย.63 ที่วัดกลางบางซื่อ ถนนนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายธีรพงศ์ ฟังเร็ว เจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมคณะทำงาน ลงพื้นที่ตรวจสอบพระสงฆ์รูปหนึ่ง หลังได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่า พบบุคคลแต่งกายคล้ายพระสงฆ์ พักอาศัยในบ้านนานเป็นปี ออกบิณฑบาตรโดยขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน จากนั้นจะนำอาหารกลับมาที่บ้านพักในตอนสายๆ
หลังได้รับแจ้งจึงได้ประสาน พระครูสังฆรักษ์ บุญโฮม จารุวาโท พระวินยาธิการประจำจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ เข้าร่วมตรวจสอบภายในซอยรัตนาธิเบศร์ 38 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ก่อนนำกำลังเจ้าหน้าที่จอดรถยนต์ซุ่มรอดูพฤติกรรมจนเวลา 10.30 น. พบรถเก๋งคันดังกล่าวขับเข้ามาภายในซอย และได้จอดตรงจุดประจำที่ชาวบ้านได้แจ้งเบาะแสไว้ เมื่อรถเก๋งคันดังกล่าวจอด ก็พบพระสงฆ์รูปหนึ่งเปิดประตูลงมาจากรถฝั่งคนขับ จากนั้นได้หายเข้าไปในรถสักพักหนึ่ง ก่อนที่พระสงฆ์รูปดังกล่าวจะเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารข้างคนขับลงมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดจึงได้แสดงตัวและเข้าตรวจค้น พบว่าภายในรถมีอาหารที่ได้จากการบิณฑบาตรจำนวนมาก ที่บริเวณเบาะนั่งท้ายรถ รวมทั้งในฝากระโปรงท้าย โดยมีบาตรและย่ามอยู่ในรถด้วย ในเบื้องต้นพระสงฆ์รูปดังกล่าวไม่มีเอกสารใบสุทธิบัตรมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ จึงได้เชิญตัวไปที่วัดกลางบางซื่อเพื่อสอบถามรายละเอียด
จากการสอบถามทราบชื่อพระสงฆ์รูปดังกล่าวคือ พระดนัย ตปสีโล แดงโชติ อายุ 46 ปี เป็นพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ย่านบางพลัด บวชเมื่อวันที่ 6 ก.ค.62 หลังบวชได้ 2 สัปดาห์ ได้ออกจากวัดมาโดยไม่ได้แจ้งทางวัด และกลับมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านกับมารดาอายุ 70 ปี โดยอ้างว่ามารดาป่วยเป็นเบาหวาน ความดัน ต้องมาดูแล เพราะมารดาอยู่คนเดียว จะออกบิณฑบาตรในพื้นที่ จ.นนทบุรี ด้วยการขับรถเก๋ง ใช้วิธีลงฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า เพื่อป้องกันประชาชนเห็น จากนั้นจะนำอาหารที่ได้ กลับมาให้มารดาและคนแถวบ้าน
ต่อมาเจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาเห็นว่าการกระทำดังกล่าวผิดวินัยสงฆ์ตามที่ประชาชนร้องเรียน จึงได้นำตัวส่งพระราชนันทมุนี เจ้าอาวาสวัดบัวขวัญและเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี เพื่อนำเรียนข้อเท็จจริงและประสานกับทางวัดต้นสังกัด โดยทางวัดต้นสังกัดได้ให้สึก ออกจากการเป็นพระ เพราะสาเหตุที่ปฏิบัติผิดวินัยสงฆ์ และเป็นพระใหม่ไม่อยู่จำวัด ทางเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรีจึงได้ทำการสึกพระดนัยตามขั้นตอนศาสนา ซึ่งทางพระดนัยก็ยินยอมโดยดี
นายธีรพงศ์ ฟังเร็ว เจ้าหน้าที่สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า พระภิกษุรูปดังกล่าวที่ถูกร้องเรียนได้สมัครใจลาสิขา ตามที่อุปัชฌาแนะนำ เพราะพระสงฆ์ที่บวชแล้วไม่อยู่วัด ศึกษาพระธรรมวินัยกับอาจารย์ และถูกประชาชนร้องเรียนเรื่องความประพฤติ ล่วงละเมิดทางวินัยจริง ตามที่ตรวจสอบพบ จึงให้ลาสิขาขาดจากความเป็นพระตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป ซึ่งหลังจากนี้หากทางอดีตพระดนัยจะกลับมาบวชใหม่อีกครั้งก็จะต้องให้มีความสำรวมและประพฤติปฏิบัติตามวินัยสงฆ์อย่างเคร่งครัด แม้การจะอ้างว่าสาเหตุที่ไม่จำวัดแต่กลับไปจำบ้านเพื่อดูแลตอบแทนบุญคุณแม่จะเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ผิดวินัยไม่เพราะสม หากต้องการจะดูแลแม่จริงๆ โดยไม่ผิดพระวินัย จะต้องพาแม่มาดูแลที่วัดแทนจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าเหมาะสมกว่า
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
