วันที่ 25 ก.ย. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายการประชุมสภากลาโหม ถึงกรณีมีการรณรงค์นัดหยุดงานวันที่ 14 ต.ค. ว่า ตนฝากทุกคนช่วยกันแก้ปัญหานี้กับรัฐด้วย ที่ผ่านมารัฐทำงานหนัก พยายามประคองสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบมากที่สุด
แต่เราก็ไม่นิ่งนอนใจในการดำเนินการทางกฎหมาย ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เพราะไม่เช่นนั้นจะอยู่กันอย่างไร ความมั่นคงของประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้
“เราต้องอยู่บนพื้นฐานภูมิคุ้มกันที่ดี ขอให้ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ที่สำคัญที่สุดทุกคนต้องช่วยกัน เพราะรัฐบาลทำคนเดียวไม่ไหว เจ้าหน้าที่ก็มีอยู่แค่นี้ ถ้าจะเอาหน้าที่ทั้งหมดมาดูแลเรื่องนี้ เรื่องอื่นก็ไม่ต้องทำอะไรกัน ตำรวจทำงานที่นี่ ทหารทำงานที่โน้น ทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้น หลายอย่างเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับประชาชน การใช้คำพูดหยาบคาย วาจาผรุสวาท ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมไทย”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าการชุมนุมของม็อบมีผลกระทบกับเศรษฐกิจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า มีผลกระทบต่อประชาชนและการค้าขาย หากมีการแพร่ระบาดโควิด-19 ครั้งที่สองจะทำอย่างไร ตนไม่ได้ขู่ บางประเทศที่ระบาดรอบสองเขาก็ล็อกดาวน์ประเทศกันหมดแล้ว เราจะเอาแบบนี้หรือ
เมื่อถามว่าหากมีการชุมนุมอีก รัฐบาลมั่นใจว่ควบคุมสถานการณ์ได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวอีกว่า ตนไม่อยากให้เกิดขึ้นสักครั้ง และในเดือนต.ค.ทุกปี ก็เกิดเหตุปลุกระดมแบบนี้ทุกครั้ง ประวัติศาสตร์คือประวัติศาสตร์ รัฐบาลไม่ใช่คนทำให้เกิดการชุมนุม เราไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับใคร การปฏิบัติ การพูดจาถ้าสื่อและคนไทยรับได้ ตนก็รับได้ แต่วันนี้ตนรับไม่ได้
เมื่อถามว่าจะบอกผู้ชุมนุมได้หรือไม่ว่าการลาออกและการยุบสภาไม่ใช่การแก้ปัญหา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ท่านก็ทราบดี จะใช้อำนาจอะไรมากดดันกันแบบนี้ วันนี้รัฐธรรมนูญและกฎหมายทุกตัวก็ยังอยู่ จะใช้ความรุนแรงแบบนี้หรือจะใช้ความแตกแยกทุกวัย ทุกรุ่น และทุกคนก็รู้วัตถุประสงค์ของเขาว่าทำเพื่ออะไร กฎหมายคือกฎหมาย อายุความก็เยอะแยะไปหมด
“ผมไม่ต้องการให้มาปลุกให้ทุกคนมาต่อสู้ มาด่าผม บางครั้งผมก็อดทนเต็มที่”นายกฯ กล่าว
cr. ข่าวสด
