“สมชาย” ยันแก้ รธน. ไม่ทิ้งความเห็นฝ่ายค้าน ต้องเข้มคุณสมบัติ ส.ส.ร.

187
แชร์ข่าวนี้

นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ว่าส่วนตัวมีข้อเสนอสำหรับสมาชิกวุฒิสภาอยู่แล้ว แต่ก็จะไม่ทิ้งความเห็นของทางฝ่ายค้านและรัฐบาล ส่วนใดที่ยังเป็นข้อกังวล เช่น เรื่องพระราชอำนาจ ก็ต้องพิจารณาร่วมกัน อย่าเขียนจนสังคมรับไม่ได้

ส่วนเรื่อง ส.ส.ร.ต้องดูคุณสมบัติให้ชัดเจน เพราะตั้งแต่ปี 2540 ส.ส.ร.ก็มักจะได้ประโยชน์จากการเขียนรัฐธรรมนูญเสมอ ดังนั้น
ต้องเขียนให้มีการเว้นวรรคทางการเมืองเหมือนกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงต้องมีการกำหนดคุณสมบัติด้วย เพราะเป็นการเขียนรัฐธรรมนูญของประเทศไม่ใช่การเซ็นเช็คเปล่าให้บุคคลใดเข้าไปมีอำนาจ มิฉะนั้นอาจเขียนรัฐธรรมนูญโอนประโยชน์ให้เป็นของตนเองหรือบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง

ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจำเป็นจะต้องคุ้มครองอำนาจของสมาชิกวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี ให้อยู่ครบวาระ 5 ปีหรือไม่ นายสมชายกล่าวว่าไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ส.ว.จะอยู่หรือไป แต่เป็นความชอบธรรมที่สังคมจะเห็นได้ ไม่ติดขัดอะไร แต่มีคำถามคือมาตรา 272 เกิดขึ้นจากการทำประชามติ หากจะแก้ไขตัดอำนาจ ส.ว.ในเรื่องนี้จะลบไปเลยหรือต้องกลับไปถามประชาชนอีกครั้ง ก็เป็นเรื่องที่ต้องคุยกัน

นายสมชาย ยังกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษา ที่มีการจุดกระแสเรื่องการรัฐประหารอย่างต่อเนื่อง ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ก็ยืนยันแล้วว่าโอกาสเกิดขึ้นเป็นศูนย์ และขณะนี้ก็ยังไม่มีเงื่อนไขในการเกิดรัฐประหารด้วย จึงมองว่าสิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมกำลังทำอยู่ คือ การสร้างกระแส เพื่อจุดชนวนให้คนลุกขึ้นชุมนุม และทำให้ต่างชาติ
เข้าใจผิด ว่า จะเกิดความรุนแรงถึงขั้นรัฐประหาร และมองว่าสิ่งที่ผู้ชุมนุมควรทำ ไม่ใช่การต่อต้านรัฐประหาร เพราะหากเกิดรัฐประหารขึ้นจริงไม่มีใครเอาอยู่

ดังนั้นสิ่งที่ผู้ชุมนุมควรทำคือการกลับเข้าสู่เนื้อหาที่จะเรียกร้อง แต่ต้องไม่ละเมิดเรื่องของสถาบัน และเรื่องที่กลุ่มผู้ชุมนุมกำลัง
พูดถึงทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ก็ไม่มีความจริงอยู่เลยและไม่มีความเข้าใจประวัติศาสตร์ด้วย ซึ่งควรไปศึกษาความเป็นมาให้ดี
และอ่านกฎหมายให้แตกฉาน และมองว่ากลุ่มผู้ชุมนุมกำลังเดินทางผิด ควรไปเรียกร้องในเรื่องอื่นไม่ใช่เรื่องนี้ ขณะเดียวกันต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาปัญหาที่ผู้ชุมนุมสะท้อนมาส่วนใหญ่ก็ได้รับการแก้ไข เช่น เรื่องของการศึกษา ทรงผมนักเรียน

ทั้งนี้นายสมชายยังมองว่าคงไม่มีการประกาศกฎอัยการศึก แต่น่าจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดที่สำคัญจะต้องมีการ
ดำเนินคดีเอาผิดตามมาตรา 112 กับแกนนำให้เร็วที่ หากปล่อยให้เนิ่นนานก็จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดความไม่พอใจ ส่งผลกระทบอาจทำให้เหตุการณ์บานปลายขึ้นได้

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้