ตำรวจยังไม่ยัน 2 ลูกจ้างชาวเมียนมา เจ้าของแพปลาสมุทรสาครที่ติดโควิด-19 ทำงานถูกกฎหมายหรือไม่ แต่พบตัวแล้ว – ผู้ว่าฯ เรียกประชุมหามาตรการป้องกันวันนี้
พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. กรณีเจ้าของแพปลา อายุ 67 ปี ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีต้นตอจากไหนนั้น แต่ในจำนวนผู้สัมผัสเสี่ยง 2 ราย ซึ่งเป็นลูกจ้างชาวเมียนมา เพศชาย อายุ 40 ปี กับ 48 ปี นั้น ทราบว่าตามตัวพบแล้วและอยู่ระหว่างรอผลการตรวจ ส่วนจะเป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัด ต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าในส่วนของแรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะแพปลาหรือทำประมง เป็นแรงงานที่นายจ้างขึ้นทะเบียนอย่างถูกกฎหมายและได้สิทธิ์อยู่ต่อในประเทศอยู่แล้ว อีกทั้งตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นต้นมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบแรงงานที่เข้ามาในพื้นที่มากขึ้น แต่ขณะนี้ยังไม่พบการกระทำความผิดแต่อย่างใด มีเพียงข่าวลือที่มักจะสร้างความตื่นตระหนกจึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ
พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร
รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ในวันนี้ (18 ธ.ค.63) ทาง นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เรียกประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์โควิด-19 และกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดฯ เบื้องต้นจำเป็นต้องเข้มงวดในเรื่องมาตรการจับปรับผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน ซึ่งเป็นไปตาม พรบ.โรคติดต่อฯ มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท พร้อมย้ำว่าการป้องกันการแพร่ระบาดนั้นทุกคนต้องร่วมมือกัน และขอให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองก่อนในเบื้องต้น
