พุทธิพงษ์ เผยแค่ 2 เดือน รวบเว็บพนันออนไลน์ ได้ผู้ต้องหาร่วมร้อย เงินหมุนเกิน 1,900 ล้าน

169
แชร์ข่าวนี้

“พุทธิพงษ์” เผยแค่ 2 เดือน ประสานตำรวจรวบเว็บพนันออนไลน์ ได้ผู้ต้องหาถึง 98 ราย พบเงินหมุนเวียนมากกว่า 1,900 ล้านบาท เร่งเจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานจากประชาชนที่แจ้งผ่านเพจ “อาสา จับตา ออนไลน์” ส่งต่อ ศปอส.ตร. กวาดล้างต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเดินหน้าปราบปรามการเล่นพนันออนไลน์ที่ยังพบการลักลอบเปิดและชักชวนให้ประชาชน/เยาวชน หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อเข้าไปเล่นจนหมดตัว สร้างความเสียหายแก่ครอบครัวและภาพรวมของประเทศ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รวบรวมหลักฐาน เพื่อติดตามสืบสวนสอบสวนจนนำไปสู่การเข้าจับกุมกวาดล้างนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี

ล่าสุดวันนี้ (23 ก.พ.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ระบุว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดที่รับผิดชอบ ทั้งการรับแจ้งจากประชาชน ที่ส่งข้อมูลแจ้งเข้ามาผ่านเพจเฟซบุ๊ก “อาสา จับตา ออนไลน์” กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) กระทรวงดิจิทัลฯ ส่งข้อมูลประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เพื่อเร่งปราบปรามจับกุม และปิดเว็บไซต์ไม่ให้มีการลักลอบเปิดให้เล่นพนันออนไลน์ได้อีก

ทั้งนี้ จากการรายงานผลการจับกุมคดีลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ ในช่วงเดือนมกราคม ถึง 20 กุมภาพันธ์ 2564 พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเข้าจับกุมและปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ ได้ผู้ต้องหา 98 ราย พบเงินหมุนเวียนมากกว่า 1,900 ล้านบาท ซึ่งจับกุมในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และล่าสุดคดีนายเสี่ยโป้ โป้อานนท์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่ถูกจับกุมเป็นข่าวดังเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

“กระทรวงดีอีเอสไม่นิ่งนอนใจ กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมหลักฐาน ส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ในการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษโดยเร็ว เพื่อไม่ปล่อยให้สร้างความเสียหายแก่ประชาชน โดยเฉพาะเยาวชนของชาติไปมากกว่านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงทำงานต่อเนื่องไม่ลดละเพื่อแก้ปัญหาพร้อมทั้งขอขอบคุณที่พี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาและได้แจ้งเข้ามาที่เพจอาสาจับตาออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของเรากำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบตามลำดับ และส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการจับกุมตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป” นายพุทธิพงษ์ กล่าว

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้