ก้าวทีละแต้ม! แมนฯ ยูไนเต็ด เจ๊า พาเลซ ไร้สกอร์ ตามซิตี้ 14 แต้ม

178
แชร์ข่าวนี้

 ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ2020/21
 คืนวันพุธที่ 3 มีนาคม 2564
 
  คริสตัล พาเลซ 0-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สนาม : เซลเฮิร์สท พาร์ค
 ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่แพ้นอกบ้่านมาเป็นเกมที่ 21 ติดกันแล้ว แต่ในขณะเดียวกันเกมรุกของพวกเขาก็ยังทื่อสนิทยิงประตูคู่แข่งไม่ได้มา 3 เกมติดกันแล้ว

แมนฯ ยูไนเต็ด ออกสตาร์ทด้วยการถูกเจ้าบ้านขึงอยู่เกือบ 10 นาที ก่อนที่โอกาสยิงครั้งแรกจะมาจากนอกกรอบเขตโทษโดย มาติช ที่ยังถูกปัดออกไปได้

การผ่านบอลของ ยูไนเต็ด ยังดูจะขาดความแม่นยำไปมากแม้ในจังหวะง่ายๆ จากนั้น นาทีที่ 15 แรชฟอร์ด ได้โอกาสสับไกเน้นๆแต่หลุดกรอบออกไปนิดเดียว

ลูกทีมของ โอเล เริ่มเป็นฝ่ายครองบอลได้มากขึ้นและหาโอกาสพาบอลไปสู่แดนของ พาเลซ ได้หลายหนแต่ก็ยังไม่ได้มีจังหวะจบสกอร์แบบเน้นๆ เกมบุกจากฝั่งซ้ายดูจะสร้างความอันตรายได้มากทีเดียวโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบอลอยู่กับ ชอว์
dd2

นาทีที่ 22 กรีนวู้ด ได้โอกาสยิงแต่บอลยังหลุดกรอบไปอีกตามเคย

วาน-บิซซาก้า เริ่มมีส่วนร่วมกับเกมรุกของทีมมากขึ้นหลังจากที่เกมบุกทางฝั่งซ้ายเริ่มเจาะแนวรับ พาเลซ ไม่ค่อยเข้า ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 0-0

พาเลซ เลือกโจมตี ยูไนเต็ด ด้วยบอลไดเร็คท์ที่ดูจะได้ผลดีพอสมควรติดตรงที่การจบสกอร์ที่ยังขาดความเฉียบขาดไปมากโข

แม้เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมาเสียอยู่บ่อยๆที่ แรชฟอร์ด เพราะความพยายามในการฝืนเล่นที่มากจนเกินไปแต่เขาก็ยังอยู่ในสนามอยู่ดังเดิม

นาทีที่ 81 จังหวะที่น่าลุ้นที่สุดของทีมเยือนในครึ่งหลังมาจาก กรีนวู้ด ที่เลี้ยงจี้ตัดเข้าในมาปั่นหวังเสียบมุมแต่บอลก็ยังไม่เข้ากรอบ

แนวรุกของ ปีศาจแดง ไม่สามารถเล่นได้อย่างถนัดเพราะเจอการบีบเร็วอยู่ตลอดเวลาของเจ้าบ้าน

นาทีที่ 89 ฟาน อานโฮลท์ หลุดเดี่ยวมาดวลกับ เฮนเดอร์สัน แต่นายประตูชาว อังกฤษ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟช่วยทีมเอาไว้ได้

หมดเวลาการแข่งขันไปแบบอึนๆกันทั้ง 2 ฝ่าย เกมต่อไป ยูไนเต็ด จะพบกับ แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

คริสตัล พาเลซ  : บิเซนเต้ ไกวต้า – โจเอล วอร์ด, เชกู กูยาเต้,  แกรี่ เคฮิลล์, แพทริค ฟาน อานโฮลท์ – ลูก้า มิลิโวเยวิช, เจมส์ แม็คคาร์ธี่ย์ (ไจโร รีเดวัลด์ น.63) – แอนดรอส ทาวน์เซนด์, เอเบเรชี่ เอเซ่ (เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ น.84), จอร์แดน อายิว – คริสติย็อง เบนเตเก้
 
แมนฯ ยูไนเต็ด  : ดีน เฮนเดอร์สัน – แอรอน วาน-บิสซาก้า, เอริก ไบยี่, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ – เนมานย่า มาติช, เฟร็ด (สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ น.74) – เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – เอดินสัน คาวานี่ (แดเนี่ยล เจมส์ น.77)

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้