ศาลฎีกาสั่งย้อนสำนวนคดีรุกที่เขาแพงให้ศาลอุทธรณ์ทำใหม่

284
แชร์ข่าวนี้

ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อม คดีรุกป่าเขาแพงที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายพรชัย ฟ้าทวีพร อายุ 58 ปี, นายสามารถ หรือ โกเข็ก เรืองศรี อายุ 66 ปี นายหน้าขายที่ดิน, นายแทน เทือกสุบรรณ อายุ 42 ปี บุตรชายของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. และนายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล อายุ 63 ปี อดีตเลขานุการส่วนตัวของนายสุเทพ เป็นจำเลยที่ 1- 4 ในความผิดฐานร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางป่า หรือ เผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองและผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตและข้อหาอื่น จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 27 ก.ย.43 – 5 ต.ค.2544 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลาย แผ่วถางป่าเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน 97 ตร.วา ส่วนจำเลยที่ 3-4 ร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ทำลาย แผ่วถางป่าเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เนื้อที่ 14 ไร่ ด้วยการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต คดีนี้ศาลชั้นต้นสั่ง จำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 3-4 จำคุกคนละ 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ต่อมาศาลอุทธรณ์ พิพากษาแก้ ยกฟ้องพวกจำเลยทั้งหมดและได้รับการปล่อยตัว อัยการโจทก์ยื่นฎีกา ขอให้ลงโทษพวกจำเลยด้วย

นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ ระบุว่า วันนี้จำเลยทุกคนเดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษา โดยศาลฎีกาแผนกคดีสิ่งแวดล้อม มีคำพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่เคยตัดสินให้ยกฟ้องจำเลยทั้งหมด โดยให้ย้อนสำนวนคดีนี้ กลับคืนให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ตามรูปคดี การที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาเช่นนี้ เท่ากับว่า คำพิพากษาของศาลศาลอุทธรณ์ ไม่มีผล จากนี้ ศาลอุทธรณ์จะต้องนำสำนวนคดีมาพิจารณาและมีคำพิพากษาใหม่ ซึ่งอาจจะมีคำพิพากษา ลงโทษ หรือยกฟ้องก็เป็นไปได้ ส่วนระยะเวลาการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จะใช้ระยะเวลานานเท่าใด ไม่อาจทราบได้

ทนายความ ยังกล่าวถึงประเด็นการประกันตัว ว่า ศาลไม่ได้มีคำสั่งเรื่องของการประกันหรือไม่อย่างไร ดังนั้นยังคงมีผลอยู่เช่นเดิมที่จำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราว

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้