เริ่มเกมในครึ่งเวลาแรกต่างฝ่ายต่างพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่กันอย่างสนุกแต่ยังหาจังหวะจบสกอร์ที่มีลุ้นเป็นประตูไม่ได้ตลอด 10 นาทีแรก
แต่แล้วนาทีที่ 14 ทีมเยือนส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้ก่อนจากลูกยิงของ สมิธ โรว แต่สุดท้าย VAR ชี้ว่าเป็นการล้ำหน้าไปก่อน ทำให้พลาดโอกาสขึ้นนำไป
4 นาทีต่อมา อาร์เซนอล ออกนำ 0-1 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ สมิธ โรว จ่ายต่อให้ เปเป้ หลุดเข้าไปยิงง่าย ๆ
นาทีที่ 20 ผู้มาเยือน ได้จุดโทษจากจังหวะที่ ซาก้า ถูกทำฟาวล์ล้มลงในกรอบและเป็น ลากาเซ็ตต์ ที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ทีมนำห่าง 0-2
นาทีที่ 24 ทีมเยือนได้ประตูที่ 3 จากจังหวะยิงนอกกรอบของ ซาก้า บอลพุ่งเสียบเสาแรกไปอย่างงดงาม
หลังจากนั้นบอลส่วนใหญ่จะสู้กันบริเวณกลางสนาม โดยเจ้าถิ่นยังหาจังหวะลุ้นทำประตูที่ตรงกรอบไม่ได้เลยตลอดช่วงเวลาที่เหลือ
ทำให้จบ 45 นาทีแรก อาร์เซนอล บุกมานำห่าง 0-3
เริ่มครึ่งเวลาหลังเจ้าบ้านพยายามเปิกเกมบุกเข้าใส่หวังเอาประตูตีไข่แตกแต่ยังหาโอกาสเจาะเข้าสู่พื้นที่อันตรายไม่ได้ ส่วนทีมเยือนถอยลงมาแพ็คเกมรับและรอโอกาสในการโต้กลับ
หลังผ่านนาทีที่ 60 ปืนใหญ่ พยายามเน้นครองบอลและเคาะไปมาเพื่อฆ่าเวลา ส่วนเจ้าบ้านยังคงพยายามบุกหาจังหวะเข้าทำแต่ก็ยังทำอะไรมากไม่ได้
จนนาทีที่ 77 อาร์เซนอล หนีไปเป็น 0-4 จากการต่อบอลขึ้นมาทางกราบซ้าย เปเป้ จ่ายเข้าเขตโทษมาให้ ลากาเซ็ตต์ ล็อคหนึ่งจังหวะก่อนยิงผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไป
นาทีที่ 85 มาร์ติเนลลี หลุดเข้าเขตโทษก่อนได้ดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตู แต่กลับยิงหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
หลังจากนั้นทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบเกม อาร์เซนอล บุกอัด สลาเวีย ปราก ยับ 0-4 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปด้วยสกอร์รวมสองนัด 1-5
สรุปผลการแข่งขันคู่อื่นๆ
– แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ กรานาด้า 2-0
(รวมผลสองนัด แมนฯยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 4-0)
– โรม่า เสมอ อาแจ็กซ์ 1-1
(รวมผลสองนัด โรม่า ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 3-2)
– บียาร์เรอัล ชนะ ดินาโม ซาเกร็บ 2-1
(รวมผลสองนัด บียาร์เรอัล ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 3-1)
– สลาเวีย ปราก แพ้ อาร์เซนอล 0-4
(รวมผลสองนัด อาร์เซนอล ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวม 5-1)
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
