นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและคณะ ลงพื้นที่ตรวจการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกัน covid-19 ที่จังหวัดนครราชสีมา พร้อมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่มาฉีดวัคซีน โดยขอบคุณภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมือ และพร้อมจะดำเนินการเร่งฉีดวัคซีนโดยเร็ว ขณะนี้มีการเตรียมพื้นที่ให้ครอบคลุมผู้คนในการฉีดมากที่สุดทั้งภาคเอกชน สถานการศึกษา ส่วนราชการของกระทรวงคมนาคม ทั้งนี้ จะเริ่มกระจายวัคซีนตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2564 จึงขอให้ประชาชนลงทะเบียนนัดหมายให้ชัดเจน พร้อมยืนยันกระทรวงสาธารณสุข มีความพร้อมทั้งสถานที่ บุคลากรทางการแพทย์ แพทย์ฉุกเฉิน และหวังว่าโมเดลความร่วมมือกับภาคเอกชนนี้ จะขยายไปทั่วประเทศเพื่อจัดการฉีดวัคซีนให้ประชาชนประสบผลสำเร็จโดยเร็ว
ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ย้ำว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยและสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ ดังนั้น ในช่วงนี้กระทรวงสาธารณสุขจะต้องเดินสายลงพื้นที่ในต่างจังหวัดเพราะพื้นที่กรุงเทพฯ มีศูนย์ดูแลครบวงจรรองรับการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้แล้ว ถือว่าทำงานร่วมกันเป็นอย่างดีในทุกภาคส่วน ยืนยัน กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ทำงานแบบสุกเอาเผากิน แต่ทุกอย่างมีการเตรียมการล่วงหน้า จึงขอให้ทุกคนมั่นใจ
นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ ตรวจการบริการฉีดวัคซีนที่จังหวัดนครราชสีมา วันนี้ประชาชนตื่นตัวเดินทางมาฉีดวัคซีน โดยมีระบบการจัดการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ได้ด้วยความรวดเร็วมีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าฉีดให้มากที่สุดภายในปีนี้ สำหรับการกระจายวัคซีนได้เริ่มฉีดให้กับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้า จากนั้น ก็จะดำเนินการฉีดตามลำดับความเสี่ยงเช่นผู้สูงอายุผู้มีโรคประจำตัว ประชาชนทั่วไป ส่วนการบริหารจัดการวัคซีนทาง ศบค. ได้มอบอำนาจให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด ทำงานเชื่อมโยงระหว่างฝ่ายปกครองกับกระทรวงสาธารณสุข ในการจัดหาวัคซีนรวมถึงทรัพยากรต่างๆ เพื่อทำให้ภารกิจการฉีดวัคซีนทั้งประเทศประสบความสำเร็จได้โดยเร็วที่สุด ขณะมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการฉีดวัคซีนได้ออกประกาศไว้ใน สปสช. แล้ว แต่ขออย่าให้คิดถึงเรื่องนั้น พร้อมย้ำว่าวัคซีนที่ประเทศไทยนำเข้ามาเป็นวัคซีนที่ได้มาตรฐานมีคุณภาพ ได้รับการยอมรับ มีการใช้อย่างแพร่หลาย และปลอดภัย มีผลทำให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกัน ไม่ติดเชื้อโควิดได้ง่าย หรือเป็นแล้วอาการไม่หนักทั้งนี้ รัฐบาลจะดำเนินการฉีดและดูแลประชาชนจนกว่าโควิดจะกลายเป็นโรคธรรมดา
สำหรับโควิคสายพันธุ์อินเดียกำลังอยู่ในระหว่างการควบคุมโรคในทุกแห่งที่เกิดการระบาดหรือมีคลัชเตอร์ให้มากที่สุด พร้อมระบุว่า วัคซีนที่นำมาใช้ครอบคลุมทุกสายพันธุ์ พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนให้มากที่สุดตามช่องทางต่างๆ ที่รัฐบาลได้เปิดไว้
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews
