นายกฯขอโทษเลื่อนฉีดวัคซีนแจงยิบขั้นตอนสั่งเร่งแก้

200
แชร์ข่าวนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เรื่องการฉีดวัคซีนที่ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ ว่า ขณะนี้ได้มีการกระจายวัคซีนไปทั่วประเทศมากกว่า 7 ล้านโดส และฉีดวัคซีนไปได้มากกว่า 6.5 ล้าน หากวัคซีนเข้ามามากกว่านี้ ก็จะสามารถฉีดให้ประชาชนได้มากกว่านี้ และตามกำหนด ซึ่งถือว่าเป็นความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนในจุดบริการ พร้อมขอขอบคุณไปยังบุคลากรทางการแพทย์ จิตอาสา ในการอำนวยความสะดวกกับประชาชน ส่วนประเด็นสำคัญในการระดมฉีดวัคซีนที่จะทำให้ได้อย่างต่อเนื่อง คือการจัดสรรวัคซีน ไปยังจุดบริการทั่วประเทศอย่างทั่วถึง และพอเพียง ซึ่งได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง พร้อมยังชี้แจงกรณีการประกาศเลื่อนฉีดวัคซีน ที่อาจทำให้ประชาชนไม่พอใจ ซึ่งตนเองได้รับทราบมาโดยตลอด และพยายามแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องโดยยืนยันว่าไม่สบายใจต่อเรื่องนี้เช่นเดียวกัน และจะพยายามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวัน อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับปริมาณวัคซีนที่จะทยอยเข้ามา เพราะหากเร่งฉีดไปเลย แล้ววัคซีนหมดก็ต้องหยุดฉีด

สำหรับภาพรวมการฉีดวัคซีน นายกรัฐมนตรี ยืนยัน?ว่า ไม่ได้รวบอำนาจไว้คนเดียว แต่ทำงานเป็นระบบ คือศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) ที่เป็นหน่วยงานสูงสุดและมีหน่วยงานอื่นๆ อยู่ภายใต้ ศบค. ซึ่งดูภาพรวมสถานการณ์และการฉีดวัคซีน และรับผิดชอบในการกำหนดนโยบายและการจัดสรรวัคซีนให้แต่ละจังหวัด,กระทรวงสาธารณสุข บริหารจัดการวัคซีน ที่ได้รับในแต่ละรอบ จัดส่งให้แต่ละจังหวัดตามจำนวน และจังหวัดต่างๆ ที่กำหนดว่าแต่ละโรงพยาบาล และทุกจุดฉีด จะได้รับ พร้อมจัดส่งให้เร็วที่สุด โดยต้องคำนึงถึงความต่อเนื่องและราบรื่น เพราะวัคซีนที่ได้รับเข้ามาเป็นการทยอยจัดส่ง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังย้ำด้วยว่า สูตรการกระจายวัคซีน คือเมื่อประชุมสาธารณสุข ได้รับวัคซีน จะต้องตรวจสอบและส่งให้จังหวัดทันที ไม่มีจังหวัดไหน ที่จะไม่ได้รับในรอบถัดไป ยกเว้นจังหวัดที่ได้ครบจำนวนตามเป้าหมายแล้ว หรือบางจังหวัดที่ ศบค.พิจารณาว่ายังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งเชื่อว่า ทุกฝ่ายมีความพยายามและตั้งใจทำงานอย่างทุ่มเท เพื่อประชาชนให้ดีที่สุด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก คือ ระยะเวลาในการจัดส่งวัคซีน และการตรวจสอบคุณภาพ ที่ไม่สามารถกำหนดวันที่ชัดเจนได้ ซึ่งภารกิจในครั้งนี้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก มีผลกระทบต่อประชาชนกว่า 70 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานไปปรับปรุงเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชน ในฐานะนายกรัฐมนตรีและผอ.ศบค. ถือว่าเป็นผู้ บังคับบัญชาสูงสุดในสงครามโควิดครั้งนี้ ต้องขออภัยกับปัญหาที่เกิดขึ้นและขอรับผิดชอบต่อปัญหาทั้งหมด เชื่อว่า จะได้รับวัคซีนมาอย่างต่อเนื่องและมากขึ้นเรื่อยๆ และเพียงพอต่อคนไทยทุกคน ซึ่งขณะนี้สามารถจัดสรรวัคซีนได้ 100 ล้านโดส เพียงพอต่อประชาชน 50 ล้านคนหรือ 70% ของประเทศ ภายในสิ้นปีนี้ อีกทั้งยังเตรียมการเพื่อปี 65 ด้วย ตั้งเป้า 80-90% ตลอดจนย้ำว่า ให้ปฏิบัติงานด้วยความโปร่งใส ต้องไม่มีการทุจริตวัคซีนโดยเด็ดขาด ซึ่งเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า จะต้องผ่านสงครามโควิดครั้งนี้ไปด้วยกันอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้