ณวัฒน์ อัปเดคอาการพ้นวิกฤตแล้ว เผยขั้นตอนการรักษาแบบละเอียด ขอทำงานเพื่อสังคมตั้งโครงการ ณวัฒน์เพื่อคนไทย ช่วยเหลือกันและกัน
พิธีกรชื่อดัง ณวัฒน์ อิสรไกรศีล หลังเข้ารักษาอาการป่วยจากโรคโควิด-19 ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 10 ก.ค. ณวัฒน์ ได้ถูกย้ายเข้าห้องไอซียูเนื่องจากเชื้อได้ลามลงปอด ต่อมาเจ้าตัวได้ออกมาอัปเดตอาการอยู่เป็นระยะๆ เพราะต้องนอนอยู่นิ่งๆ บนเตียงและอยู่ในห้องให้ออกซิเจนความดันสูง 24 ชั่วโมง
ล่าสุด วานนี้ (16 ก.ค.) ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ได้ออกมาไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊คเป็นครั้งแรกหลังอาการทรุด โดยบอกว่าตอนนี้พ้นวิกฤตแล้ว แต่ยังคงต้องให้ออกซิเจนอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังได้เผยขั้นตอนการรักษาอย่างละเอียด พร้อมกับเริ่มต้นทำงานเพื่อไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่าด้วยการตั้งโครงการ ณวัฒน์เพื่อคนไทย ช่วยเหลือกันและกัน
“ขอบคุณทุกกำลังใจเลยครับที่ส่งมาให้ ได้รับการอนุญาตจากแพทย์สามารถสื่อสารได้ หายไปนานจากการสื่อสารคิดถึงทุกคนครับ มันเป็นวิกฤตที่สุดแล้ว ตอนนี้ยังรักษาตัวอยู่บนเตียง พ้นวิกฤตแล้วครับ แต่เริ่มต้นใช้ชีวิตยังไงเดี๋ยวต้องดู เกิดขึ้นเร็วมากกับชีวิตไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ เราอยู่ในขั้นโคม่า อย่างแรกเลยผมติดเชื่อสายพันธุ์อินเดีย ค่อนข้างเร็วมาก วันที่เข้ามาคือหนาวสั่นมาก อาการไม่ดีขึ้น ความดันตก ออกซิเจนต่ำมากเหลือ 70 เอ็กซ์เรย์ก็หาจุดไม่ได้ ต้องทำทีซีสแกนด่วนมากหาจุดให้เจอ ผมไม่รู้เรื่องเลย ผมก็นอนนิ่งๆ เป็นครึ่งชั่วโมง ถึงได้รู้ว่าเชื้อค่อนข้างแรงไม่ได้เข้าใต้ปอด เข้าหัวปอดข้างบนลงมาอย่างรวดเร็ว ”
“ตั้งแต่วันนั้นเปลี่ยนเป็นห้องความดันสูง ให้ออกซิเจนร้อยเปอร์เซนต์เพราะปอดไม่ทำงานฝ้าเต็มไปหมด ยาฟาวิไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับผมเลย มียาตัวใหม่คือยาเรมดิซิเวียร์ที่นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา ต้องนอนนิ่งๆ วันละสองชั่วโมงครึ่ง วัน สำหรับคนที่ไม่สามารถหายใจด้วยตัวเอง เพราะไซด์เอฟเฟคเยอะมาก ให้พลาสม่าเป็นการด่วน เอาพลาสม่าที่เป็นเชื้ออินเดียเป็นๆ มาเจาะรูดู เอาเวฟ และเข้าทางเส้นเลือดดำ และเฝ้าดูว่าแอนตี้ไหม ถ้าแอนตี้ก็อาจถึงแก่ชีวิต แต่โชคดีที่ไม่แอนตี้ ตอนนี้เลือดไม่ค่อยโฟลว์เลยต้องฉีดยาที่หน้าท้องทุกวัน”
“ตอนนี้ลดระดับไฮโฟลว์ลงมาเผื่อเลี้ยงปอด หายใจเองได้บ้าง ชีวิตตั้งแต่เข้ามาจนวันนี้ยังไม่ได้อาบน้ำเลย ชีวิตผมมีแค่นี้มีแค่ผ้าสองผืนสำหรับเช็ดหน้าและเช็ดตัว เป็นครั้งแรกที่ทำทุกอย่างบนเตียง เป็นเวลาที่เป็นของผมจริงๆ”
แล้วก็พรุ่งนี้จะมีเอกซเรย์อีกรอบ และเช็คทั้งหมดอีกครั้งนึง หมอประเมินไม่รู้ว่าจะได้อยู่โรงพยาบาลไปอีกนานแค่ไหนแต่ ซึ่งจะประเมินอย่างเป็นทางการวันจันทร์ที่จะถึงนี้ว่าจะปรับยังไงต่อ อาจจะถึงประมาณปลายเดือนแต่ยังออกไปใช้ชีวิตปกติยังไม่ได้ ทำงานได้เท่าที่ทำ เพราะฉะนั้นเลยรู้สึกว่าอยากทำงานใช้เวลาให้มีค่า ทำงานตั้งแต่เดี๋ยวนี้ไปเป็นต้นไป ตอนนี้ต้องปรับสภาพบ้านกำลังให้คนเปลี่ยนห้องให้เป็นห้องมีออกซิเจน ตอนนี้ประเทศไทยซื้อเครื่องออกซิเจนไม่มี ต้องหาซื้อต่อไป
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
