นายกฯ โต้ผิดพลาดไม่เข้าโคแวกซ์ขออย่าด้อยค่าวัคซีน

241
แชร์ข่าวนี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงประเด็นสาธารณสุขว่า ได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อรับสายพันธุ์เดลต้ามากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมามีการพัฒนาเชื้อมาตามลำดับและในต่างประเทศก็ยังมีอีกหลายสายพันธุ์โดยในช่วง 15 เดือนแรก ปรับกลยุทธ์เพื่อเอาชนะการแพร่ระบาดมาโดยตลอด โดยการแพร่ระบาดในรอบแรกปี 2563 เน้นมาตรการในภาพรวมอยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ และมาตรการระดับบุคคล ผลการดำเนินการในช่วงแรก สามารถควบคุมการแพร่ระบาดจากต่างประเทศ และควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศได้ โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 70 วัน ในรอบที่ 2 ใช้ระยะเวลา 3 เดือนมกราคมถึงมีนาคมปี 2564 แนวทาง Bubble and seal จำกัดการแพร่ระบาดในคลัสเตอร์ต่างๆ ไม่ให้แค่เชื้อไปยังภายนอก ส่งเสริมให้มีการกระจายอำนาจไปยังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พิจารณามาตรการเพิ่มเติมในพื้นที่ของตน

นอกจากนี้ มีการเพิ่มเติมตรวจหาเชื้อแบบเชิงรุก รายการสอบสวนโรครวมทั้งจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อเข้าสู่ระบบการรักษาเร็ว และตอนนี้มีการปรับสถานการณ์มาโดยตลอด ซึ่งผลการดำเนินการในรอบที่ 2 สามารถควบคุมการระบาดได้ภายในเวลา 80 วัน ต่อมาในช่วงเดือนพฤษภาคม จำเป็นต้องมีการปรับกลยุทธ์รับมือการแพร่ระบาดไวรัสกลายพันธุ์เดลต้า โดยองค์การอนามัยโลก ประกาศพบเชื้อไวรัสโควิคสายพันธุ์เดลต้า แพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง เพิ่มขึ้น 80 เปอร์เซ็นต์กว่า 130 ประเทศทั่วโลก โดยในเดือนกรกฎาคมเริ่มมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้า ในประเทศไทย ปัจจุบันการแพร่ระบาด 80% ในประเทศของเชื้อเดลต้า เป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลต้องปรับกลยุทธ์ เพื่อความรวดเร็วและประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม ซึ่งวันนี้ทางคณะแพทย์สาธารณสุข มีการคิดค้นการฉีดวัคซีนไขว้ชนิด และฉีดวัคซีน Booster เข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรด่านหน้า ส่วนของมาตรการควบคุมตามระดับความรุนแรง ได้แบ่งพื้นที่จังหวัดเป็นสีเขียวสีเหลืองและสีแดง ล็อกดาวน์เฉพาะจังหวัดสีแดงเข้มเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเป็นภาระกับประชาชนเกินความจำเป็น

ส่วนการล็อกดาวน์ ที่มีการพูดถึงว่าไม่มีผลกับมีการแพร่ระบาดในประเทศไปยังภูมิลำเนาต่างจังหวัดนั้น อาจจะลืม ไม่เข้าใจหรือไม่ เพราะทราบว่าเมื่อกลับไปแล้วจะพบอะไรบ้างในภูมิลำเนา ว่ามีการตรวจสอบคัดกรองมีการกักตัวโดยเจ้าหน้าที่ระดับพื้นที่ ไม่ได้มีการ ปล่อยปละละเลยไปยังพื้นที่อื่น

อย่างไรก็ตาม ระบบการสาธารณสุขในพื้นที่กรุงเทพฯแตกต่างกับในส่วนภูมิภาค พยายามเข้าไปช่วยเหลือเนื่องจากมีสถานภาพเป็นเขตปกครองพิเศษต้องใช้ ศบค. เข้าไปบูรณาการร่วมกันเพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกันกับทั้งในกรุงเทพมหานครและพื้นที่ต่างจังหวัด วันนี้มีการจัด ศบค. กทม. เขต ไม่ใช่เพื่อจะใช้อำนาจของตนไปสั่งอะไรใคร แต่ทั้งหมด ศบค. มีหน้าที่ในการบูรณาการ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ ศบศ. และหน่วย eoc ของ กระทรวงสาธารณสุขแล้วนำข้อมูลขึ้นมาเสนอ

ส่วนในแต่ละจังหวัดมีการเพิ่ม มาตรการข้อกำหนดที่สำคัญ สถานบันเทิงสถานที่เสี่ยง ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าตรงไหนคือกลุ่มเสี่ยง มีการทำงานร่วมกันทั้งส่วนกลางและภูมิภาค จะเห็นได้ว่าในพื้นที่สามารถเพิ่มมาตรการเพิ่มเติมได้ ตามความจำเป็น

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้