ค้นชุมชนสถานีรถไฟล่าคนร้ายชิงทองห้างขอนแก่น

177
แชร์ข่าวนี้

จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองกีรติ ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วม บก.สส.ภ.4,ภ.จว.ขอนแก่น และ สภ.เมืองขอนแก่น ยังคงไล่ล่าติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วอย่างต่อเนื่องนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 23 พ.ย.2564 พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะ โฆษก ตร.ภ.4 กล่าวว่า ยืนยันชัดเจนว่าคนร้ายสามารถนำทองคำรูปพรรณ ซึ่งเป็นสร้อยข้อมือไปได้รวม 24 บาท รวมมูลค่าความเสียหาย 720,000 บาท ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนได้ลงพื้นที่ไล่ล่าติดตามตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนรอบสถานีรถไฟขอนแก่น เนื่องจากการสืบสวนได้มีการไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยาน ตั้งแต่ประตูหน้าห้างฯ ซึ่งพบว่าคนร้ายวิ่งมาตาม ถ.ศรีจันทร์ และเลี้ยวขวาผ่านชุมชนรถไฟและวิ่งผ่านตลาดรถไฟและสถานีรถไฟและได้หายตัวไป รวมระยะทางในการวิ่งหลบหนีจาก ห้างฯมาที่สถานีรถไฟ ระยะทางกว่า 2 กม.

“ จากการสอบสวนขณะนี้ พบว่าจุดสุดท้ายที่พบเบาะแสคนร้าย คือบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟ ขอนแก่น ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม. ดังนั้นเมื่อมีการตีกรอบระยะพื้นที่จากจุดที่พบล่าสุด คือโดยรอบสถานีรถไฟ ที่ คนร้ายสามารถใช้เป็นเส้นทางหลบหนีได้ ทั้งการออกไปทาง ถ.รื่นรมย์ ตัดเข้าตลาดโต้รุ่ง,การวิ่งไปตามอาคารพาณิชย์ เพื่อเข้าชุมชนรถไฟ หรือชุมชนวัดวุฒาราม หรืออาจจะวิ่งตรงไปตาม ถ.รถไฟ ไปในจุดโรงเรียนแก่นนคร หรืออาจจะเลี้ยวขวา ออกไปเส้นทาง ถ.มิตรภาพ ซึ่งขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่องในทุกจุดแล้ว ซึ่งจากเหตุการณ์น่าจะไม่ใช่มืออาชีพแต่เตรียมการมาดี โดยขณะนี้ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ชั้น 2 ในจุดที่เกิดเหตุและกำชับทุก สภ.ในการเพิ่มความเข้มงวดในร้านทอง ธนาคาร รวมไปถึงจุดเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ในทุกพื้นที่ตามนโยบายของ สตช.และ บช.ภ.4 อย่างเข้มงวดพล.ต.ต.ไพศาล กล่าวต่ออีกว่า เสื้อผ้าที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญ ซึ่งจากภาพที่บันทึกได้นั้นได้ถูกนำมาวิเคราะห์ในทุกมิติ ซึ่งคนร้ายอาจจะเป็นคนที่ชอบดูหนัง หรือชอบยุทธวิธีและการอำพรางตัว ทั้งหมดจะถูกนำมารวบรวมไว้ในแนวทางการสอบสวนแต่ไม่สามารถที่จะเปิดเผยรายละเอียดไปได้มากกว่านี้ เนื่องจากจะกระทบกับแนวทางและสำนวนการสอบสวนและการทำงานของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นทุกอย่างอาจจะมองว่าช้า แต่การทำงานของตำรวจต้องละเอียด รอบคอบ ชัดเจน แม่นยำในทุกมิติ เพื่อนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามขณะนี้ บช.ภ.4 ได้มีการเผยแพร่ภาพคนร้ายและการตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาทในการให้ทุกคนได้ช่วยแจ้งเบาะแสของคนร้ายต่อไป

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้