นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง การวิเคราะห์ส่งออกไทยปี 2565 ว่า การส่งออกยังคงต้องเผชิญกับปัจจัยลบที่สำคัญ คือการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่กำลังส่งผลกระทบรุนแรงในสหภาพยุโรปเวลานี้ และจะส่งผลต่อการส่งออกของไทยในช่วงไตรมาสที่1-2 ทำให้การส่งออกลดลงร้อยละ 1-2 เม็ดเงินหายไป 2-4 หมื่นล้านบาท แต่หากโอไมครอนลากยาวเกินช่วงไตรมาสที่2 ผลกระทบจะมีมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเงินเฟ้อของทั่วโลกที่กำลังปรับตัวสูงขึ้นเป็นอุปสรรคต่อการส่งออก การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ยัง มีอยู่รวมถึงค่าขนส่งที่สูงขึ้น ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น การขาดแคลนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเพื่อการส่งออกและนโยบาย Zero Covid ของจีน ซึ่งทำให้การตรวจสอบมีความเข้มข้นมากขึ้นเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการส่งออกของไทย
ในขณะที่ปัจจัยบวกของการส่งออกในปี 2565 นั้น คือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง คาดว่าจะอยู่ที่ 32-33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทั่วโลกมากขึ้นมีผลทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการเดินทาง การขยายตัวของสินค้า New Normal เช่น ถุงมือยาง ยาสมุนไพร และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกฟื้นตัว คาดว่า การส่งออกในปี 2565 นั้นจะขยายตัวได้ร้อยละ 4.8 หรือ อยู่ในกรอบร้อยละ 3.2-6.3 แต่หากการระบาดของโอไมครอนลากยาวตลอดทั้งปี อาจมีผลทำให้การส่งออกขยายตัวเหลือเพียงร้อยละ 0.2 หรืออยู่ในกรอบติดลบร้อยละ 1.3 ถึงขยายตัวร้อยละ 1.6
อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศยังได้ประเมินปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบได้ทั้งในแง่บวกและแง่ลบคือการมีผลบังคับใช้ของRCEPในวันที่ 1 มกราคม 2565 นโยบายการเปิด-ปิดประเทศของคู่ค้าต่างๆที่อาจได้รับผลกระทบจากโอไมครอน สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่อาจมีการตอบโต้กันมากยิ่งขึ้น เส้นทางรถไฟลาว- จีนและการเก็บภาษีคาร์บอน
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews
