“ไตรรงค์” อวยพร”อรรถวิชช์”ให้ชนะเลือกตั้งซ่อม

181
แชร์ข่าวนี้

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 9 หลักสี่จตุจักรกรุงเทพมหานคร พรรคกล้า เข้าพบนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอพรก่อนการลงเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตามทำเนียมปฏิบัติของนายอรรถวิชช์ โดยนายไตรรงค์ กล่าวว่า ทุกวันนี้ใครแพ้ชนะไม่มีความหมายในแง่ปริมาณเพราะเสถียรภาพรัฐบาลก็ยังมีอยู่

ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องของคุณภาพมากกว่าเพราะภาพพจน์ของสภาตกต่ำไปมาก ส.ส.หลายคนทำผิดไปเยอะ พฤกติชั่วทั้งกาย วาจา ใจ วาจาทุจริต มโนทุจริต เมื่อเห็นว่าอยู่ต่างขั่วก็พูดอัดกันไม่มีความเกรงใจกัน มีการพูดโกหก กันในสภาหน้าตาเฉย คิดแต่คำพูดว่าด่าให้เจ็บกว่ากันชนะ ไม่มีสาระในการพูด มีการปล่อยข่าวกันเยอะ ทำให้สภามีความเสียงหาย ดังนั้นต้องเลือกผู้แทนราษฎรที่มีคุณภาพ อะไรที่ทำดีก็ว่าดี อะไรที่ไม่ดีก็ต้องบอกว่าไม่ดีอย่างไรไม่ใช่ด่าเอาเป็นเอาตายและมีทางออกให้ด้วย

เท่าที่รู้จักนายอรรถวิชช์ มา ตลอดที่ทำการเมืองร่วมกัน เป็นคนพูดจามีเหตุผล ไม่หยาบคาย ไม่พูดเท็จ ไม่ส่อเสียด มีวิชาความรู้ในระดับชาติ และดูแลคนในเขตตลอด ถ้าตนมีสิทธิที่จะเลือกตนก็เลือกคนที่มีคุณภาพเป็นที่ประจักษ์ และก็จะเลือกนายอรรถวิชช์ พร้อมฝากประชาชนให้เลือกส.ส.ที่มีคุณภาพ และเชื่อว่ามีคนอีกจำนวนหนึ่งที่คิดเหมือนตนที่อยากเลือกคนที่มีคุณภาพ และอยากให้นายอรรวิชช์ได้รับเลือกตั้ง

ซึ่งการเลือกตั้งเมื่อปี 62 นายอรรถวิชช์ไม่ได้แพ้เพราะฝีมือแต่แพ้ เพราะคนหมั่นไส้อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ออกมาบอกว่าไม่หนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ในขณะนั้นคนที่มาเข้าร่วมชุมนุม กปปส.หวังพึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จะได้เป็นผู้นำประเทศ และให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช้ระบอบกังฉิน เข้าในระบอบบ้านเมือง

ทำให้คนใต้และคนกรุงเทพฯ โกรธพรรคประชาธิปัตย์ จึงสั่งสอนลงโทษหัวหน้าพรรคด้วยการไม่ลงคะแนนเสียงให้ ซึ่งผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งกรุงเทพฯและภาคใต้เป็นคนที่มีคุณภาพมาก และส่วนตัวยังหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์จะฟื้นในพื้นที่กรุงเทพฯ แม้ว่าพรรคจะไม่ส่งผู้สมัครลงสมาชิกพรรคยังคงผูกพันธ์กับอดีตส.ส.ของพรรค

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่ไม่มั่นคง และมีกระแสการปฏิวัติที่ฝ่ายค้านออกมาพูดถึง ว่า ไม่มีกลิ่นปฏิวัติ ซึ่งในครอบครัวเป็นคนในกองทัพทั้งหมดหากมีความเคลื่อนไหวอะไรตนก็น่าจะรู้เป็นคนแรกๆ ตนไม่ได้เป็นห่วงเสถียรภาพรัฐบาล เพราะพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันว่าไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาลเองก็ไม่มีปัญหาอะไร ส.ส.ที่ถูกขับออกไปจากพรรคพลังประชารัฐก็ยังสนับสนุนรัฐบาลเหมือนเดิม เพราะเป็นเทคนิคหนึ่งที่แยกออกไป ตนก็ต้องเชื่อพล.อ.ประวิตร ก่อน ว่าพูดความจริงไม่ใช่พูดเพื่อระดมใจประชาชน

ทั้งนี้ ต้องรอให้รัฐสภาออกกฎหมายลูกทั้ง2 ฉบับ ก่อนหลังจากนั้นจะคิดยุบสภาหรือเลือกตั้งใหม่ก็ว่ากันไป แต่ก็ยังไม่แน่ชัดว่าเมื่อกฎหมายลูกออกมาแล้วอาจจะมียุบสภาเลือกตั้งหรือไม่ ก็ต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ปกติรัฐบาลแบบผสม ส่วนใหญ่จะไม่ครบ4ปี ถ้ามีความเหมาะสมก็จะมีการยุบสภาเลือกใหม่ได้ ถ้าต้องการให้ประชาชนพิพากษา ว่าจะเอายังไงกับประเทศ รัฐบาลก็ยุบสภาได้ หากยุบตอนนี้จะเลือกตั้งอย่างไร ยังไงก็ต้องรอกฎหมายลูกเสร็จสิ้น ถ้าออกเป็นพพระราชกำหนด(พ.ร.บ.)ก็ไม่ยุติธรรมกับพรรคฝ่ายค้านเพราะการออกพรก.รัฐบาลสามารถเขียนกฎหมายให้เข้าข้างพรรครัฐบาลได้

ดังนั้น จะต้องออกเป็นพระราชบัญญัติเพื่อให้ทุกฝ่ายต้องร่วมกันการกรองก่อนว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้