ทันทีที่เปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรีเริ่มขึ้น
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กำชับ ส.ส.ให้ปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุม โดยอภิปรายในประเด็น ไม่ฟุ่มเฟือย วนเวียน ซ้ำซาก ห้ามแสดงกิริยาไม่สุภาพหรือใส่ร้าย
โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ชี้แจงกรอบเวลาการอภิปราย 30 ชั่วโมง แบ่งเป็น ฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 8 ชั่วโมงโดยวันนี้จะอภิปรายไปถึงเวลาเที่ยงคืนเศษ ยืนยันว่า ฝ่ายค้านจะพยายามควบคุมเวลาให้ได้วันละ 11 ชั่วโมง
ขณะนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า ฝ่ายรัฐบาลจะควบคุมเวลาให้ได้วันละ 4 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน โดยหวังว่า การอภิปรายจะเป็นไปตามเจตนารมย์ของประชาชน และฝ่ายค้านจะให้ความร่วมมือทุกประการ โดยที่รัฐบาลไม่สงวนสิทธิ์ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล เพราะกันเวลาไว้ให้พรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคได้ชี้แจง
จากนั้น นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้าน ในสภาผู้แทนราษฎร ได้ลุกขึ้นเสนอญัตติเปิดอภิปรายทั่วไป มุ่งเน้นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนที่ล้มเหลวของรัฐบาล มีการก่อหนี้สาธารณะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้หนี้ครัวเรือนของประชาชนและอัตราการว่างงานของนักศึกษาจบใหม่สูงขึ้นรวมถึงสถานการณ์โควิด มียอดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
ขณะที่รัฐบาลกลับไม่มีมาตรการเยียวยาที่ชัดเจน ประกอบกับมีการติดเชื้ออหิวาต์ในสุกร ทำให้ราคาหมูปรับตัวสูงขึ้น เกษตรกรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และพบว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนรายใหญ่
ขณะเดียวกันราคาสินค้าอุปโภคบริโภคชนิดอื่นก็ปรับตัวสูงขึ้น โดยที่รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทำให้ของแพงจนพังทั้งแผ่นดิน นอกจากนี้ รัฐบาลขาดความจริงใจในการปฏิรูปการเมืองโดยเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งก็ย้อนไปใช้ระบบอุปถัมภ์ ใช้เงินซื้อเสียง อีกทั้งยังพบการทุจริตคอร์รัปชั่น
ทั้งนี้ ในช่วงท้ายนายแพทย์ชลน่านขอรัฐบาลหยุดทรมานประชาชนโดยการคืนอำนาจให้กับประชาชน
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews
