ชงปรับ Test & Go ยกเลิกตรวจ RT-PCR ในวันที่ 5

204
แชร์ข่าวนี้

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังนำคณะผู้บริหารหอการค้าฯ เดินทางกลับจากการเยือนเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อขยายโอกาสด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ว่า ปัจจุบันในหลายประเทศแถบตะวันออกกลางและยุโรป เริ่มมีการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศเป็นอย่างมาก จากการเดินทางไปเมืองดูไบในครั้งนี้ทราบว่าประชากรภายประเทศได้รับวัคซีนครบโดส 100% และอีกว่า 40% ได้รับ Booster เข็ม 3 ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจเป็นไปอย่างคึกคักจากนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างชาติที่คลายความกังวล ประกอบกับที่ผ่านมาไม่เคยประกาศล็อกดาวน์ประเทศ ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา หอการค้าไทย ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการและหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ที่ต้องการให้มีการผ่อนคลายทั้งมาตรการ Test & Go และลดจำนวนวันกักตัวเพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีสำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อเป็นโอกาสในการเดินหน้าเศรษฐกิจไทย การปรับปรุงและผ่อนคลายมาตรการ Test & Go จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการตรวจ RT-PCR Test ของนักเดินทางขาเข้าประเทศ ที่ต้องตรวจถึง 3 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 ก่อนเข้าประเทศ (ภายใน 72 ชั่วโมง) ครั้งที่ 2 วันแรกที่เข้าประเทศ และครั้งที่ 3 ในวันที่ 5 นับจากการเข้าประเทศ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีการตรวจหลายรอบเป็นการสร้างภาระสำหรับนักเดินทาง โดยหลายประเทศเน้นเพียงการฉีดวัคซีนครบโดสกับผลการตรวจ RT-PCR ก่อนเข้า 72 ชั่วโมงเท่านั้น หอการค้าไทย จึงเห็นว่าหากสามารถยกเลิกการตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 3 (คืนที่ 5) ได้จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น และจะเป็นผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการโดยรวม โดยจากการที่คณะหอการค้าฯ หลายสิบคนได้เดินทางกลับมา แล้วต้องเข้าไปตรวจ RT-PCR วันที่ 5 ที่โรงแรมนั้น นอกจากจะไม่สะดวกแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้นักเดินทางด้วยในการที่จะติดเชื้อเพิ่มด้วย

หอการค้าไทย จึงเสนอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนผ่อนคลายมาตรการ Test & Go เพื่อเป็นการจูงใจและดึงดูดนักเดินทางต่างชาติ เนื่องจากระหว่างเดือนนี้จนถึงเมษายน ถือเป็นช่วงที่อยู่ใน High Season ที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางมาไทย รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจต่างชาติที่ต้องการเดินทางมาทำธุรกิจในประเทศ โดยหากดำเนินการได้จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นกับนานาชาติถึงความพร้อมของไทยในการเปิดประเทศ และเป็นผลดีต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาเข้มแข็งได้เร็วยิ่งขึ้น

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้