“ประวิตร”ย้ำกิจการอวกาศสำคัญต้องเร่งพัฒนา

203
แชร์ข่าวนี้

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายกิจการอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 1/65 ผ่านระบบ VTC ณ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจเพื่อสังคม เข้าร่วมประชุม โดยรับทราบการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ จำนวน 9 ท่าน และรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานตามแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์สิน

ภายหลังสิ้นสุดสัญญาการดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ เมื่อ 30 ก.ค.64 และรับความคืบหน้าการจัดทำ(ร่าง) แผนแม่บทอวกาศแห่งชาติ พ.ศ.2566 – 2580 ซึ่งอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียทั้ง 6 กลุ่ม รวม 65 หน่วยงาน และการปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันในเรื่อง New Space Economy พร้อมทั้งรับทราบความคืบหน้าการจัดทำ (ร่าง) พระราชบัญญัติกิจการอวกาศ พ.ศ… ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจหลักการด้านกฎหมาย

พร้อมทั้งรับทราบโครงการศึกษาทิศทาง รูปแบบการให้บริการดาวเทียมในอนาคตและแนวทางกำกับดูแลการให้บริการดาวเทียมในประเทศไทย ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมผลการศึกษาจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และการจัดประชุมเชิงวิชาการเพื่อเผยแพร่ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ทิศทางอุตสาหกรรม รูปแบบการให้บริการ รวมทั้งแนวนโยบายและการกำกับดูแล

จากนั้น ร่วมพิจารณา นโยบายการดำเนินงานดาวเทียมแห่งชาติ ให้สามารถตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของประเทศไทย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคง โดยแยกประเภทดาวเทียม ประกอบด้วย ดาวเทียมสื่อสาร ดาวเทียมสำรวจทรัพยากร ดาวเทียมระบุพิกัด ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา รวมทั้งดาวเทียมเพื่อการทดลองทางวิทยาศาสตร์

ตลอดจนร่วมกันทบทวนคำสั่งคณะอนุกรรมการและคณะทำงานภายใต้คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ เพื่อพัฒนากิจการอวกาศและการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศให้มีประสิทธิภาพ เป็นรากฐานในการพัฒนาประเทศทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคง

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ได้ย้ำ กิจการอวกาศของประเทศ มีความสำคัญยิ่ง ที่ต้องเร่งพัฒนาให้ทันกับสถานการณ์โลกและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ขอให้เร่งจัดทำแผนแม่บทอวกาศแห่งชาติและกฎหมายลำดับรองคู่ขนานกันไปให้เร็วขึ้นและต้องมีความรอบคอบ

โดยดึงผู้มีส่วนได้เสียเข้ามาร่วมรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม ประชาชนผู้ใช้บริการและเพื่อประโยชน์สาธารณะ ทั้งนี้ ขอให้พิจารณาให้สามารถปรับแผนให้มีความยืดหยุ่นได้จากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่รวดเร็ว พร้อมทั้งต้องสร้างความตระหนักรู้ และความเข้าใจกับประชาชนไปพร้อมๆกัน เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์และวัตถุประสงค์ของภารกิจร่วมกัน

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้