“จุรินทร์”ลุยแม่ฮ่องสอนแก้ปัญหาค้าชายแดนไทย-เมียนมา

195
แชร์ข่าวนี้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยร่วมเป็นประธานการประชุมหารือร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยคณะทำงาน ที่ห้องประชุมขุนลุมประพาส ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน

 

โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้มาประชุมที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นรูปการประชุม กรอ.พาณิชย์ ในภูมิภาคที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน หัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนรวมทั้งฝ่ายความมั่นคงหารือในการผลักดันการค้าชายแดนเพื่อเร่งรัดตัวเลขการส่งออกในปี 2565 การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน การเปิดด่านเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง

 

ปัจจุบันประเทศไทยมี 97 ด่าน เปิดแล้ว 48 ด่านและจะเร่งทยอยเปิด สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีด่านทั้งหมด 5 ด่าน ที่เป็นจุดส่งออกและนำเข้าสินค้า ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรนการค้า มูลค่าการค้าชายแดนที่ผ่านด่านจุดผ่อนปรนการค้าทั้ง 5 จุด ในปี 2564มีมูลค่า 210 ล้านบาท เป็นการส่งออก 198 ล้านบาท

 

เนื่องจากติดปัญหาสถานการณ์โควิดและปัญหาสถานการณ์ในเมียนมา ทำให้ตัวเลขการค้าเหลือเพียง 210 ล้านบาท แต่ปี 2561 ตัวเลขการค้าผ่านจุดผ่อนปรน 5 จุดนี้มีมูลค่า 1,762 ล้านบาท และเป็นการส่งออก 892 ล้านบาท ถ้าทำงานร่วมกันกับเมียนมาและภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด ตัวเลขการค้าจะกลับมาได้ต่อไปในอนาคต ซึ่งประเด็นปัญหามีอยู่ 3 ประเด็น คือ

 

1.ภาคเอกชน หอการค้าจังหวัดประสงค์ให้มีการยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าห้วยต้นนุ่น เป็นจุดผ่านแดนถาวร ซึ่งฝ่ายความมั่นคงไม่ขัดข้อง แต่ติดขั้นตอนของการปักปันเขตแดนซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง รวมถึงการสร้างอาคารและถนน อยู่ระหว่างการดำเนินการขอใช้พื้นที่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพราะเป็นพื้นที่ป่าผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะรับไปเร่งรัดดำเนินการให้เกิดผลในภาคปฏิบัติโดยเร็ว

 

2.หอการค้าจังหวัดและภาคเอกชน ขอให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าห้วยต้นนุ่นเฉพาะกิจให้สามารถทำการท่องเที่ยวระหว่างแม่ฮ่องสอน-เมียนมาได้ ซึ่งเราได้มีการทำ MoU แล้วตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2560 ให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายสามารถข้ามแดนไปมาได้ แต่ถึงขึ้นการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวเป็นรายละเอียดที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติมต่อไปตนมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ประชุมร่วมกับทุกฝ่าย หาข้อสรุปให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งการค้า การท่องเที่ยว และให้ผู้ว่าราชการจังหวัด รายงานผลใน 30 วัน

 

3.การกำหนดจุดที่ทำการของจุดผ่อนปรนบ้านห้วยผึ้ง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งเพราะการค้าชายแดน 76% หรือ 3 ใน 4 ผ่านด่านห้วยผึ้ง การกำหนดจุดผ่อนปรนการค้ายังมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกันทั้งในส่วนการปกครองท้องถิ่นและฝ่ายความมั่นคงและอื่นๆ ฝ่ายท้องถิ่นประสงค์ใช้อาคารที่บ้านร่องแห้ง แต่ฝ่ายความมั่นคงยังมีความเห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในปัจจุบัน ซึ่งยังไม่เป็นที่ยุติ

อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหาข้อยุติ ที่ดีที่สุดที่จะให้การค้าหรือการท่องเที่ยวเกิดขึ้นในอนาคตสามารถเดินหน้าต่อไปได้เพราะทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคงล้วนแล้วแต่มีความสำคัญ ประเทศจำเป็นต้องดูแลเรื่องความมั่นคงให้ขณะเดียวกันเศรษฐกิจที่จะต้องเร่งนำรายได้เข้าประเทศก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน และจะรายงานมาที่ตนภายใน 30 วัน

 

นอกจากนั้นนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ยังให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมหารือร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อติดตามสถานการณ์ การค้าชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยกล่าวถึงกรณีที่นายอภิชัย เตชะอุบล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ และนายไพร พัฒโน ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคฯ ว่า เป็นเรื่องปกติเหมือนทุกพรรคการเมือง ทุกสมัย

 

แต่ก็ยังมีอีกสมาชิกใหม่ที่ทยอยเข้ามาร่วมงานและร่วมอุดมการณ์ กับพรรค พร้อมยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ ยังแน่นเหนียว ทั้งสมาชิกเก่าที่ยังอยู่และสมาชิกใหม่ เพื่อเดินหน้าพรรคต่อไป เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง ที่ยังสามารถดำรงคงอยู่ได้อยู่ยั่งยืนถึง 76 ปี และจะยังคงอยู่ต่อไป

 

ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ยืนยันในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า มีภารกิจในการขับเคลื่อนพรรคให้เติบโตไปข้างหน้า โดยมั่นใจว่า จะสามารถทำได้ พร้อมย้ำสมาชิกพรรคเกือบทั้งหมด ยังรักสามัคคี กลมเกลียว แน่นเหนียว จับมือไปด้วยกัน แม้จะมีอุปสรรคบ้าง แต่ก็จะต้องแก้ไขกันไปเหมือนทุกพรรคการเมือง และมั่นใจ ปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์ มีน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับพรรคการเมืองอื่น ๆ จึงขอเป็นกำลังใจให้พรรคการเมืองอื่น ๆ ด้วย เพราะบางพรรค ก็มีปัญหามากกว่าพรรคประชาธิปัตย์หลายเท่า ไม่มีพรรคใดราบรื่นทั้งหมด เพราะถือเป็นการทำงานร่วมกันของบุคคลที่คิดว่า มีศักยภาพ จึงมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง

 

ส่วนการโยกย้ายพรรคการเมืองของ ส.ส. และนักการเมืองนั้น มองว่า ส.ส.และนักการเมือง อาจคิดว่า เป็นช่วงเวลาที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง ที่เมื่อใกล้ถึงเวลา ก็จะมีปรากฏการณ์การย้ายพรรคเกิดขึ้นเสมอ ถือเป็นเรื่องปกติ

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้