นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายศิววงศ์ วงศ์พิชญา ผู้สมัคร ส.ก. เขตดอนเมือง หมายเลข 4 ทั้ง 2 คน ได้ร่วมกันเดินหาเสียงที่ตลาดฝั่งโขง ถนนสรงประภา เพื่อย้ำเตือนให้พี่น้องประชาชนไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ในวันที่ 22 พ.ค. ที่จะถึงนี้ ซึ่งระหว่างเดินขอเสียงจากพ่อค้า แม่ค้า มีผู้สูงอายุ เข้ามาบอกเล่าความทุกข์จากการที่ต้องเดินไปหาหมอที่คลีนิค แต่ถนนในซอยไม่ดี มีสิ่งกีดขวางเยอะแยะ และกลัวถูกรถชน
ซึ่ง นายสุชัชวีร์ ได้รับฟังข้อร้องเรียนดังกล่าว พร้อมระบุว่า เรื่องนี้ตนเข้าใจปัญหาเป็นอย่างดีและเห็นว่า ฟุตบาทต้องเรียบสนิท สามารถให้ผู้สูงอายุ และคนทุกวัยสามารถเดินได้อย่างสะดวกเท่าเทียม หากตนมีโอกาสได้เป็นผู้ว่าฯ จะขอลงมาดูให้
ทั้งนี้ นายสุชัชวีร์ เคยลงพื้นที่ดอนเมืองมาแล้ว พบว่าสะพานลอยบริเวณสนามบินดอนเมือง มายังวัดดอนเมืองนั้น ขาดตอน ไม่สามารถเชื่อมต่อถึงชุมชน วัด ตลาดได้ ทำให้พี่น้องประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยวที่สนใจเที่ยวชมวิถีชีวิตต้องเดินลงถนน เพื่อข้ามทางม้าลายมายังวัดดอนเมือง เรื่องนี้ หากเชื่อมต่ออีกนิดเดียว ชีวิตเปลี่ยน โดยไม่ทำให้ต้องเสี่ยงอันตรายข้ามถนนและทำให้เขตดอนเมืองกลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจได้ทันที
นอกจากนี้ ยังเห็นว่าเขตดอนเมืองสามารถพลิกเปลี่ยนปัญหาให้เป็นการสร้างรายได้ด้วยการนโยบาย 12 เทศกาลใหญ่ 50 เทศกาลเขต ที่ตั้งใจจะทำเพื่อชาวกรุงเทพฯ เพื่อให้ดอนเมือง ซึ่งเคยเป็นเขต 1 ใน 5 ที่ถูกร้องเรียนเรื่องจราจรมากที่สุด เพราะเทศกาลสงกรานต์ทำให้ถนนสรงประภา มีรถติดยาวหลายชั่วโมง จึงต้องทำให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามเทศกาล เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เช่นเดียวกับถนนข้าวสาร ด้วยการจัดการจราจรให้มีประสิทธิภาพเท่านั้น ก็จะทำให้ประชาชนไม่เดือดร้อน และยังมีความสุข ถือเป็นสิ่งที่น่าทำเพราะคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม หากชาวดอนเมืองให้โอกาส “เอ้ สุชัชวีร์” และ “นายศิววงศ์” ผู้สมัคร ส.ก. หมายเลข 4 เบอร์เดียวกัน
อย่างไรก็ตาม จะมีการปราศรัยใหญ่ครั้งที่ 2 ที่เขตสะพานสูง วันที่ 13 พ.ค. ปราศรัยครั้งที่ 3 วันที่ 18 พ.ค. ที่บางขุนเทียน และวันที่ 20 พ.ค. ปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายที่ใจกลางกรุงเทพมหานคร แต่ขออุบสถานที่ไว้ก่อน ขอให้พี่น้องประชาชนได้ติดตามเซอร์ไพร์สด้วย เพราะการปราศรัยจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนการที่ผู้สมัครคนอื่น ประกาศตัวเป็นผู้บริหารระดับสูงของ กทม. นั้น นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า ตนขอเป็นเพียง “ช่างประจำบ้านและแม่บ้าน” เพราะนี่คือหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม.ต้องเป็นช่างประจำบ้านที่ต้องทำทั้งซ่อมและปะผุ เวลาจะสร้างอะไรใหม่ ก็ต้องสร้างให้ดีกว่าเก่า ส่วนการเป็นแม่บ้านก็คือทำหน้าที่ดูแลลูกหลานคน กทม. ให้ไปเรียนหนังสือแล้วต้องได้อะไรกลับมา ดูแลความสะอาดบ้าน ดูแลผู้สูงอายุในบ้านด้วย ซึ่งเรื่องนี้ #ทีมสุชัชวีร์” เปลี่ยนกรุงเทพ #เราทำได้
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews
