“อนุทิน” ยันกัญชา-กัญชงไม่มีการเอื้อนายทุน

187
แชร์ข่าวนี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชง ครั้งที่ 1/2565 ซึ่งมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

โดยนายอนุทิน กล่าวว่า หลังจากที่สภาผู้แทนราษฏร ได้รับหลักการร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง เรียบร้อยแล้ว และจะเข้าสู่ขั้นตอนการออกกฎหมายเพื่อใช้ควบคุมให้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งสอดคล้องกับ วันที่ 9 มิ.ย.65 ครบ 120 วัน ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปลดล็อกพืชกัญชง-กัญชา ออกจากยาเสพติดในไทย ประ เภทที่ 5 ขอเน้นย้ำว่า เป้าหมายหลักในการปลดล็อกจากยาเสพติด เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกดูแลสุขภาพของตนเอง และเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมทั้งในกลุ่มเครื่องสำอางค์ สมุนไพร อาหาร และอุตสาหกรรมอื่นๆ

ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมพร้อมรับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุขได้แจกจ่ายยาที่มีส่วนผสมของกัญชาไปทั่วประเทศแล้วกว่า 1.4 ล้านหน่วย มีผู้ป่วยที่ได้รับยากัญชาไปแล้วกว่า 1 แสนราย พร้อมทั้งมีการยอมรับจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายตามสิทธิของการรักษา จึงเป็นเหตุผลที่นโยบายกัญชงกัญชาต้องได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายภาคราชการ เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง และยังเป็นลดภาระค่าใช้จ่ายในการซื้อยาจากต่างประเทศ

สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา-กัญชง สามารถทำได้ไม่มีการเอื้อนายทุน เพราะทุกอย่างทำออกมาเพื่อให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียมแต่จะต้องมีการสร้างกติกาที่เป็นมาตรฐานขึ้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน ยืนยันรัฐบาลไม่มีนโยบายการใช้พืชกัญชงกัญชาไปในทางที่ผิด ในลัก ษณะมอมเมา สันทนาการแต่ออกมาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้นายอนุทิน ยืนยันการแต่งตั้งคณะกรรมการ เพื่อสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องไปยังประชาชน กำหนดมาตรการเพื่อกำกับและควบคุม การใช้ประโยชน์จากพืชกัญ ชากัญชง รวมทั้งกำหนดมาตรฐานที่จะนำกัญชากัญชงมาผลิตในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตลอดจนกำหนดมาตรการคุ้มครองเพื่อไม่ให้มีการใช้พืชกัญชากัญชงไปในทางที่ผิด หรือทางที่ไม่เหมาะสม

ดังนั้นต้องขอความร่วมมือคณะกรรมการทุกคนที่ร่วมประชุมวันนี้ เพื่อช่วยประคับประคองสถานการณ์ระหว่างกรอนที่จะมีการประกาศบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างเป็นทางการต่อไป

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้