นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยถึง “มุมมองเศรษฐกิจไทย ปี 2565″ว่า ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทย ปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 2.9 จากเดิมร้อยละ 2.7 ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และภาคบริการหลังเปิดประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 7.4 ล้านคน ทำให้เศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
แต่มีความเป็นห่วงเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มปรับชะลอตัวลงมากกว่าที่คาด เหลือร้อยละ 3.2 ในปีนี้ จากการเติบโตร้อยละ 5.8 ในปีที่ผ่านมา เพราะความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากสงครามรัสเซียยูเครนมีผลกับราคาพลังงานและราคาอาหาร สะท้อนทำให้เงินเฟ้อทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับมาตรการล็อกดาวน์ควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มข้นของจีน มีผลทำให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัว และการดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวของธนาคารกลางหลายประเทศ เพื่อสกัดเงินเฟ้อจะเป็นตัวกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกให้มีความผันผวน และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวมีผลโดยตรงกับการส่งออกของไทย ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.8 แล้วจะมีผลทำให้การส่งออกปีหน้าชะลอตัวลงได้
นอกจากนี้ นายสมประวิณ มันประเสริฐ รองผู้จัดการใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงาน Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) EIC คาดว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ที่ร้อยละ 0.75 ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2565 จากเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูง และเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นหลังเปิดประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพราคาและชะลอการเร่งตัวของเงินเฟ้อ ที่มองว่าเวลานี้จะยังไม่ถึงจุดสูงสุดจึงมีโอกาสขยายตัวได้อีก แต่เชื่อว่าจุดสูงสุดของอัตราเงินเฟ้อไทยจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 7 ในช่วงไตรมาสที่ 3 และในช่วงไตรมาสที่ 4 จะชะลอลงตามการลดลงของเศรษฐกิจไทยที่สะท้อนการลดลงของเศรษฐกิจโลก
ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนของไทยนั้น ในระยะสั้น อาจยังต้องเผชิญกับแรงกดดันจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และความเสี่ยงของภาวะสงครามส่งผลให้เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าอยู่ในกรอบ 34.5-35.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้เล็กน้อยในช่วงปลายปีจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น เพราะการท่องเที่ยว คาดว่าเงินบาทมีแนวโน้มจะกลับมาแข็งค่าขึ้นได้เล็กน้อย อยู่ในช่วง 33.5-34.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews