“พีระพันธุ์” ถกอนุฯ เร่งเคลียร์ปัญหาร้องเรียนปชช.

224
แชร์ข่าวนี้

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมร่วมคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการตามคำสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมกัน 9 คณะ

โดย นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการและแนวทางการทำงานของคณะอนุกรรมการทั้ง 9 คณะ ที่ตนได้แต่งตั้งขึ้น เพื่อเข้ามาทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมฯ ซึ่งประกอบด้วย คณะอนุกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์, คณะอนุกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์,คณะกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐ, คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสถาบันการเงิน, คณะอนุกรรมการประสานการสนับสนุนและแก้ไขปัญหา, คณะอนุกรรมการติดตามและเร่งรัดการแก้ไขปัญหา, คณะอนุกรรมการติดตามและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาเฉพาะกรณี,
คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับข้อพิพาทและปัญหาที่ดิน และคณะอนุกรรมการประสานงานและตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อร้องเรียนในจังหวัดชายแดนภาคใต้และที่เกี่ยวกับชาวมุสลิม

สำหรับการประชุมในครั้งนี้เป็นการหารือร่วมกับประธานคณะอนุกรรมการทั้ง 9 คณะเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนให้ได้รวดเร็วและทั่วถึงโดยมีเป้าหมายในการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ได้รับการร้องเรียนเพื่อขอความช่วยเหลือของประชาชน ซึ่งตนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการประสานการทำงานร่วมกัน เพื่อดูว่าการแก้ปัญหาติดขัดอยู่ที่ขั้นตอนไหน และสามารถแก้ไขได้อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะกรณีเร่งด่วนเรื่องความเดือดร้อน เรื่องการทำมาหากิน การดำรงชีวิตของผู้ด้อยโอกาส คนยากจน คนพิการ เพื่อให้ทุกคนได้รับการดูแลอย่างรวดเร็วเท่าเทียมเสมอภาคกันตามดำริของนายกรัฐมนตรี เพื่อต้องการเร่งช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนทุกคน

ทั้งนี้นายพีระพันธุ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลตามข้อร้องเรียนของประชาชนในต่างจังหวัดมาแล้วหลายพื้นที่ อาทิ ให้ความช่วยเหลือประชาชนประสบปัญหาด้านความยากจนและการทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวที่เป็นคนสูงอายุ และปัญหาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการจ้างงานสำหรับคนพิการ จ.บุรีรัมย์ จ.ร้อยเอ็ด และจ.ชลบุรี เป็นต้น

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้