พณ.จ่อขีดชื่อนิติบุคคล 2,768 ราย เป็นบริษัทร้าง

215
แชร์ข่าวนี้

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ระหว่างการปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจแก่ภาคธุรกิจและประชาชนที่เข้ามาตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล รวมถึงป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างความน่าเชื่อถือจากการจดทะเบียนนิติบุคคลไปหลอกลวงและแสวงหาประโยชน์โดยนิติบุคคลนั้นไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายจริง โดยกรมฯ ได้ออกประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียน จำนวน 2,768 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร สำหรับนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด กรมฯ ได้ประสานกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดให้ดำเนินการตรวจสอบและปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน

สำหรับนิติบุคคลจำนวน 2,768 ราย ที่จะถูกขีดชื่อในครั้งนี้ กรมฯ ได้พิจารณาจากมูลเหตุหรือข้อสันนิษฐาน คือ กรณีจดทะเบียนเลิกแล้วแต่ไม่มีตัวผู้ชำระบัญชีทำการอยู่ หรือไม่ได้จัดทำรายงานการชำระบัญชี หรือไม่ได้ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีต่อนายทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่เลิกห้างหุ้นส่วนบริษัท

อย่างไรก็ดี แม้นิติบุคคลจะมีสถานะร้างและสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลไปแล้ว แต่ความรับผิดชอบของหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมการ ผู้จัดการ และผู้ถือหุ้น ยังคงมีอยู่ และอาจคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน สำหรับประชาชนที่ต้องการจะตรวจสอบรายชื่อนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถูกขีดชื่อสามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th >> หัวข้อ คู่มือทำธุรกิจ >> เลือกจดทะเบียนธุรกิจ >> ประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน

โดยการปรับปรุงฐานข้อมูลสถานะของนิติบุคคลถือเป็นภารกิจสำคัญที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลนิติบุคคล อันจะส่งผลต่อการวิเคราะห์การเจริญเติบโตในภาคธุรกิจ และตัดโอกาสการถูกหลอกลวงของประชาชนจากมิจฉาชีพ ดังนั้น ขอฝากไปยังนิติบุคคลต่างๆ ว่าจะต้องปฏิบัติตัวตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ซึ่งการจัดทำงบการเงินประจำปีและยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าถือเป็นหน้าที่สำคัญของนิติบุคคล รวมถึง กรณีที่นิติบุคคลมีความจำเป็นต้องยุติประกอบธุรกิจ ก็ยังคงมีหน้าที่ในการจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นเช่นกัน

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้