“รังสิมันต์” หวั่นเอกสาร “มีชัย” หลุดอาจชี้นำกดดันศาล

201
แชร์ข่าวนี้

นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีเอกสารความเห็น ของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญให้ความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเรื่องการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลุดมานั้น ว่าหากเอกสารดังกล่าวเป็นฉบับจริงหมายความว่ามีนายมีชัยสองคนในเวลานี้ คนเก่าคือในฐานะประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญที่มีความเห็นอีกอย่างหนึ่งและอีกคนคือคนที่ให้ความเห็นตามที่มีเอกสารหลุด

นอกจากนี้ยังมีเอกสารบันทึกการประชุมกรธ.ครั้งที่ 501 ซึ่งมีความชัดเจนว่ากรธ. ได้รับรองการประชุมครั้งที่ 500 ดังนั้นหากเอกสารที่นายมีชัย ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าการจดชวเลขมีความคาดเคลื่อนแสดงให้เห็นว่าเอกสารบันทึกการประชุมในครั้งนั้นมีน้ำหนักไม่มาก เพราะจะถูกหักล้างโดยเอกสารคำชี้แจงที่อ้างของนายมีชัย “ ถึงที่สุดความเห็นเจตนารมณ์ของกฎหมายมีความชัดเจน และคำพูดใดๆในที่ประชุมกรธ.มันได้เป็นนายไปแล้ว และสะท้อน เจตนารมย์บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในเรื่อง 8 ปี ว่าจะต้องตีความอย่างไรซึ่งการตีความอื่นๆของนายมีชัยก็ไม่สามารถที่จะรับฟังได้โดยหลักการ”

ทั้งนี้ บทเฉพาะกาลเขียนเอาไว้อย่างชัดเจนเพื่อป้องกันการผูกขาดอำนาจหากตีความให้พล.อ.ประยุทธ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เริ่มการบังคับใช้รัฐธรรมนูญในวันที่ 6 เมษายน 2560 ก็เป็นการตีความขัดต่อเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ วิกฤตการเมืองจะเกิดขึ้นจากตรงนี้ พร้อมมองว่าเอกสารหลุดอาจเป็นการโยนหินถามทาง และอาจจะต้องมองในมิติทางการเมืองเรื่องความสัมพันธ์ภายในรัฐบาล

แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มั่นใจว่าเป็นเอกสารความเห็นของนายมีชัยจริงหรือไม่ซึ่งอาจจะเป็นเอกสารที่ทำขึ้นมาเองก็ได้ แต่หากเป็นเอกสารจริง ก็ไม่ สอดคล้องกับที่นายมีชัยเคยให้ความเห็นไว้ในที่ประชุมกรธ.ดังนั้น จึงมีความกังวลต่อการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หลังมีเอกสารหลุดออกมา ก็ยอมรับว่ามีโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์จะได้กลับมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อ เพราะเอกสารดังกล่าวนี้อาจจะเป็นการชี้นำการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ได้

ดังนั้นหากศาลมีคำวินิจฉัยออกมาในทิศทางที่เอื้อต่อพล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องมีคำอธิบายต่อสังคมให้ชัดเจนต่อกรณีนี้

นายรังสิมันต์ มองว่า วันนี้สิ่งที่สังคมอยากเห็นคือการกลับมาเริ่มต้นใหม่ด้วยกันที่พล.อ.ประยุทธ์ลาออกเปิดทางให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อจัดการเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง เนื่องจากอยู่ในช่วงสุดท้ายของอายุรัฐบาลแล้ว จึงอยากให้พลเอกประยุทธ์พิจารณาตัดสินใจลาออกด้วยตัวเอง เพราะ 8 ปีถือว่ามากพอแล้วและหวังว่าวันนี้รัฐสภาจะความเห็นชอบ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ตัดอำนาจวุฒิสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นการเปิดทางให้การเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นการเลือกตั้งที่เปี่ยมไปด้วยความหวังของประชาชน เพื่อให้นายกรัฐมนตรียึดโยงกับประชาชน ประชาชนได้เลือกนายกผ่านสภาผู้แทนราษฎร

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้