การท่าฯ เชียงใหม่ ย้ำห้ามปล่อยโคมในเขตการบิน

200
แชร์ข่าวนี้

นายวิจิตต์ แก้วไทรเทียม ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวทางในการปฏิบัติเพื่อป้องกันผลกระทบจากการปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) ในเทศกาลลอยกระทงหรือประเพณียี่เป็ง ว่า ขอให้ยึดปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติการเดินอากาศ (ฉบับที่ 14) ซึ่งปรับปรุงใหม่เมื่อปีพ.ศ.2562 โดยในมาตรา 33 ได้เพิ่มความตามมาตรา 59/1 แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 และประกาศจังหวัดเชียงใหม่

เรื่อง มาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 ซึ่งห้ามจุดและปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน (ว่าวฮม) หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 ซึ่งพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 ดังกล่าว คือบริเวณแนวขึ้น-ลง สนามบิน ที่อยู่ห่างจากทางขึ้น-ลงของเครื่องบิน ข้างละ 4.6 กิโลเมตร เป็นระยะทางยาว 18.5 กิโลเมตร จากหัวทางวิ่งทั้ง 2 ด้าน ครอบคลุมพื้นที่ในตำบลต่างๆ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ 16 ตำบล อำเภอสารภี 5 ตำบล อำเภอสันทราย 1 ตำบล อำเภอหางดง 11 ตำบล

อำเภอแม่ริม 5 ตำบล อำเภอสันป่าตอง 1 ตำบล สำหรับการรณรงค์เรื่องการปล่อยโคมลอยให้ปลอดภัย ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้มีหนังสือ ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่อยู่ในเขตความปลอดภัยในการเดินอากาศ ประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนให้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาลลอยกระทง ขณะเดียวกันยังได้เพิ่มรอบความถี่ในการตรวจสอบบริเวณพื้นที่ของสนามบินทั้งภายในเขตการบินและนอกเขตการบิน โดยเฉพาะในเขตการบินหรือ Airside จะมีการออกตรวจทางวิ่งทางขับจากเดิมวันละ 4 ครั้ง เป็น 10 ครั้ง เพื่อตรวจเก็บซากโคมที่อาจถูกกระแสลมพัดมาตก ในพื้นที่เขตการบิน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการเก็บโคมลอยและโคมควัน โดยพร้อมออกไปเก็บซากโคมลอยได้ทันที หากได้รับแจ้งจากหอบังคับ การบินหรือจากนักบิน

นอกจากนี้ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ยังได้ขอความร่วมมือสายการบินต่างๆ พิจารณาปรับเปลี่ยนเวลาทำการบินในช่วงเทศกาลลอยกระทงเพื่อลดความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอย โดยระหว่างวันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2565 มีเที่ยวบินที่แจ้งยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาการบิน รวมทั้งสิ้น 69 เที่ยวบินคิดเป็นร้อยละ 31 ของเที่ยวบินที่ทำการบินทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นเที่ยวบินยกเลิกจำนวน 55 เที่ยวบิน และเที่ยวบินที่เปลี่ยนแปลงเวลาทำการบินจำนวน 14 เที่ยวบิน และมีเที่ยวบินพิเศษเพิ่มเติม 6 เที่ยวบิน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าสายการบินจะยกเลิกและเปลี่ยนแปลงเวลาทำการบิน ในช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว แต่สนามบินเชียงใหม่ก็ยังเป็นสนามบินสำรองให้อากาศยานที่มีเหตุขัดข้องจำเป็นต้องขอลงจอดฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นจึงไม่สามารถปล่อยโคมลอยในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนปล่อยโคมลอยในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ และพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษระดับ 1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้