“ไอซ์ อภิษฎา” เปิดใจครั้งแรก หลังสาวปริศนาแฉสามีมหาเศรษฐีฝรั่งเศส

180
แชร์ข่าวนี้

ไอซ์ อภิษฎา เปิดใจครั้งแรกหลังเจอมรสุมดราม่าสาวแฉสามี ลั่นตั้งใจมีลูกอยู่แล้ว ยังไม่เปิดหน้าสามี ย้ำไม่ใช่เมียน้อยใคร

ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก สำหรับคุณแม่หุ่นแซ่บอย่าง ไอซ์ อภิษฎา ที่ก่อนหน้านี้หลายคนแอบเป็นห่วงและส่งกำลังใจรัวๆ เมื่อมีสาวออกมาแฉว่าใช้สามีคนเดียวกัน แต่สาว ไอซ์ ก็ไม่ได้ออกมาตอบโต้และเดินหน้าใช้ชีวิตสุดแฮปปี้

ล่าสุด เจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจเคลียร์ บอกปล่อยผ่านคนสร้างข่าว ยันยังไม่คิดจะเปิดหน้าสามี เพราะห่วงความเป็นส่วนตัว พร้อมยืนยันตั้งใจมีลูก ไม่ใช่ความผิดพลาด และไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแต่งงานอยู่แล้ว

“สำหรับการมีลูก เราทั้งดีใจและตกใจและกลัวเหมือนเราต้องรับผิดชอบ อีกชีวิตหนึ่งมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่เขาอาศัยอยู่ในท้องเรา และเราเป็นคนชอบออกกำลังกายเป็นคนชอบกินของแซ่บมันก็เลยต้องมีการเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะ ยังไงขั้นต่ำก็อยากมี 2 คนอยู่แล้ว คุณสามีบอกอยากมี 3 คน เราก็บอกว่าพักก่อน 2 พอ ตอนนี้ก็ใกล้คลอดแล้ว คิดว่ามกราคม ส่วนวันยังไม่มีเลย คุณหมอก็พูดว่าฤกษ์หาไป สุดท้ายเด็กก็เลือกวันเอง เพราะเราต้องเช็คอาทิตย์ต่ออาทิตย์”

“เรื่องเปิดหน้าสามีไม่รู้เหมือนกันนะว่า เราจะอยากเปิดเมื่อไหร่ เอาจริงๆ ด้วยความที่ตั้งแต่แรกเรารู้สึกว่า อยากมีพื้นที่ส่วนตัวให้เขา แต่รู้สึกว่าอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า โดยส่วนตัวของเรา เราไม่ใช่คนลงรูปโพสต์กับแฟน ตั้งแต่อยู่วงการมา 10 กว่าปีอาจจะมีแค่คนนึงเพราะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมันแยกกันไม่ได้ แต่กับคนอื่นที่เราเป็นแฟนที่คบกันมาไม่ค่อยมีรูปไอซ์กับแฟนเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้มันเป็นสิ่งนึงที่มันคือตัวตนของเราด้วย แล้วพอกับเขาก็ไม่ใช่คนที่จะชอบถ่ายรูป แต่เราก็ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นเรื่องปกติ ตอนนี้คือเซ็นทรัลภูเก็ตถิ่นประจำ ไม่ได้ปิด ไม่ได้รู้สึกว่าเจอใครแล้วทำเป็นความลับ แต่แค่รู้สึกว่าไม่รู้จะโพสต์อะไร แต่ถ้ามีรูปอะไรพิเศษจริงๆ อยากลงก็จะลง แต่ไม่มีรูปที่อยากจะลง”

“ตั้งแต่แรกเลยนะหมอดูทุกคนจะพูดเลยนะความรักถ้าไม่เปิดเผยจะดีที่สุด แต่เราไม่เป็นเมียน้อยใครนะ แต่ถ้าเปิดจะมีปัญหา เราก็รู้สึกว่าเป็นคำพูดที่ฝังหัวอยู่แล้ว แล้วทุกครั้งเปิดแล้วก็ชอบมีปัญหา พอเรามานั่งคิดพิจารณาว่า ตอนเราอยู่กันสองคนเราไม่มีปัญหา แต่พอมีคนเอาไปทำโน่นนี่ ปัญหามาจากคนอื่นไม่ใช่เรา”

“สำหรับดราม่าที่เกิดขึ้น ตอนนั้นเราคิดแค่ว่า เราอยู่ในยุคที่เราจะต้องใช้สติมากๆ ในการรับฟังข่าวหรือวิเคราะห์ ตอนนั้นในหัวมีอยู่ 2 อย่างว่า เราจะต้องออกมาแก้ข่าวไหม แต่เรารู้สึกว่าถ้าเราออกมาแก้ข่าวเป็นการไม่ให้เกียรติตัวเอง ทำไมเราต้องดิ้นรนกับอะไรที่มันไม่ใช่เรื่อง สำหรับเรามองว่าถ้าออกมาพูดเป็นการไม่ให้เกียรติตัวเองอย่างหนึ่ง เราอย่าไปเดือดร้อนกับสิ่งที่มันไม่ใช่ เราต้องยืนหยัดหนักแน่นกับความจริงของเรา ถ้าเราออกมาพูดแล้วเขาเปลี่ยนแอคเคาท์เอาเรื่องอะไรมาพูดอีก ก็ต้องออกมาพูดทุกครั้งเหรอ ไม่อยากจำเป็นที่จะต้องให้ค่ากับอะไรที่อย่างนี้ แล้วไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกกี่รอบๆ ต้องดิ้นรนกับมัน ไอซ์เลยหนักแน่นและปล่อยผ่านแล้วมันก็ผ่านไป”

“รู้สึกว่าเรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร และเราก็ถามตัวเองแล้วว่าเราไม่ใช่คนที่ใครก็ได้ วันนี้ที่เราอายุมาถึงขนาดนี้ และเรามีประสบการณ์ชีวิตกับความรัก และรู้ว่าเราเลือกอะไร ในวันที่เราจะมีน้อง พูดเลยว่านี่คือความตั้งใจมากๆ เราไม่ใช่เด็กๆ ที่จะมาใช้คำว่าพลาดหรืออะไร มันเป็นสิ่งที่เราตั้งใจ แต่อาจจะไม่ใช่ตามสเต็ปทุกคนที่จะต้องจัดงานแต่งงานนะ แต่เรื่องนั้นสำหรับเรา คือเราเองที่ไม่อยาก คือเรารู้สึกว่ามันไม่ได้หมายความว่าอะไรเลยในงานแต่งงาน และเราก็เคยเฉียดๆ ตรงนั้นมาแล้ว และเราเห็นแล้วว่ามันไม่ได้แปลว่าอะไร มันไม่ได้มีความหมายอะไรที่จะทำให้ชีวิตรักอันนี้มันยืนหยัด มั่นคงเพราะมีภาพงานแต่งงานๆ นึง แต่เราว่าสิ่งสำคัญคือต่อจากนี้เราจะใช้ความเป็นครอบครัวของเรายังไงให้มันมีความสุขอยู่ยาวที่สุด”

“ก็แหวนหมั้นนั่นแหละ เอาจริงๆ นะตั้งแต่วันนั้นที่บอกเขา เขาถามว่าถ้าแต่งงานเธออยากได้แบบไหน จัดงานที่ไหน อะไรยังไง เราก็บอกเอาเงินที่จะทำทั้งหมดมาที่นี่ (เอาจริงๆ เรารู้สึกว่างานแต่งงานเป็นวันเดียวแล้วมันก็จบ แต่อันนี้มันอยู่กับเราตลอด วันนั้นพูดเล่นๆ เธอฉันไม่ได้สนใจอะไรเลย แล้วเขาก็ถามสนใจอะไร ก็พูดเล่นๆ หลังจากนั้นสิ่งที่เขาหามาก็รู้สึกว่าเขาตั้งใจแล้วเขาพยายามหาดีที่สุดเท่าที่เขาหาได้ ไม่บอกว่ากี่กะรัต แต่เขาหาสิ่งที่ไอซ์รู้สึกว่า ไอซ์เคยพูดในรายการว่า เขาส่งใบเซอร์มาให้ เพราะเขาไปประมูลมา เราก็พูดนี่เธอขอฉันหรือเปล่า ขายเพชรฉันอะไรแบบนี้ เราเลยรู้สึกว่าเราเห็นความตั้งใจแล้วนอกเหนือสิ่งที่มันจะต้องเป็นไซส์หรืออะไรที่ทุกคนสนใจ แต่เราสนใจว่าเขาพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เรา”

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้