นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยอมรับว่า การมีบัตรประชาชนดิจิทัลถือว่า เป็นเรื่องที่ดีสร้างความสะดวกสบายให้กับประชาชนในการทำธุรกรรมต่างๆ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการพัฒนาแอพพลิเคชัน ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยป้องกันการแฮ็กข้อมูลไว้อย่างดีแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามประชาชนจะต้องระมัดระวังตัวเองด้วย ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว ยูเซอร์เนม-พาสเวิร์ด กับใคร หรือเข้าใช้บริการเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นที่เราไม่รู้จัก ควรต้องทำการตรวจสอบให้แน่ใจก่อน พร้อมย้ำด้วยว่า การทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ จะไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐติดต่อกลับไปยังผู้ทำธุรกรรมอย่างแน่นอน หากมีผู้แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐอย่าไปหลงเชื่อ
ขณะเดียวกัน หากจะต้องมีการทำธุรกรรมที่สำคัญ เช่นธุรกรรมทางการเงิน หรือข้อมูลสำคัญในทะเบียนราษฎร์ จะมีระบบสแกนใบหน้าที่เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลของกรมการปกครอง เพื่อยืนยันตัวตน ก่อนเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ทั้งนี้ นายชัยวุฒิ ขอประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง เพราะได้มีการพัฒนาระบบเพื่อสร้างความปลอดภัย ให้กับข้อมูลส่วนตัวของประชาชนอยู่แล้ว
นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ยังกล่าวถึงการจัดตั้งตำรวจไซเบอร์ กว่า 2,000 คน ที่จะดูแลงานด้านอาชญากรรมทางดิจิทัลและ ออนไลน์โดยตรงว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาภัยออนไลน์และได้มีการตั้งกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นระดับกองบัญชาการ ซึ่งหน่วยงานนี้ได้ตั้งมาสองปีแล้วมีอัตรากำลังตามเป้า
คือ ต้องมีอัตรากำลังพลถึง 2,000 นาย ตอนนี้อยู่ระหว่างโอนตำรวจ ตำรวจจากหน่วยงานต่างๆซึ่งตอนนี้ได้ประมาณเกือบ 1,000 นาย และจะมีการตั้งเป้าว่าจะได้ 2,000 นาย ในอีกสองปีข้างหน้าซึ่งการย้ายตำรวจนั้นจะต้องมีการฝึกอบรมเพราะตำรวจที่เข้ามาทำหน้าที่จะมีอำนาจหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ทางอินเตอร์เน็ตในโลกออนไลน์ ดังนั้นจึงคิดว่าหน่วยงานนี้จะเป็นหน่วยงานสำคัญที่สุดในอนาคต จะมีบทบาทสำคัญในการทำคดีออนไลน์รับแจ้งความรับเรื่องร้องเรียนต่างๆผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งได้ทำการเปิด เวปไซด์ thaipoliceonline.com แล้ว
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews
