นักการเมืองอเมริกัน พิจารณาข้อดี-ข้อเสียของ ‘ChatGPT’

169
แชร์ข่าวนี้

หลังจากที่โปรเเกรม ChatGPT กลายมาเป็นปรากฏการณ์ที่ผู้คนต่างสนใจในความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) ในการเขียนโต้ตอบและค้นหาคำตอบ ขณะนี้นักการเมืองอเมริกันกำลังพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้อกับซอฟต์เเวร์ดังกล่าวเช่นกัน

ประเด็นที่ส.ส.และส.ว.สหรัฐฯ ให้ความสนใจคือเรื่องบทบาทของ ChatGPT ต่อการศึกษาและความมั่นคงแห่งชาติ

ChatGPT ซึ่งมีผู้ใช้ 100 ล้านคนต่อเดือนไม่นานหลังจากเปิดตัว ถือว่าเป็นโปรเเกรมคอมพิวเตอร์ที่มีอัตราเติบโตของผู้ใช้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์

แอปดังกล่าวถูกพัฒนาโดยบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากไมโครซอฟท์ และสามารถใช้ได้ฟรี

เนื่องจากมีผู้ใช้จำนวนมาก จึงเกิดความกังวลเรื่องการใช้โปรเเกรมนี้เเพร่ข้อมูลบิดเบือน ส่วนนักการศึกษาเป็นห่วงว่านักเรียนนักศึกษาอาจนำ ChatGPT ไปช่วยทำการบ้านหรือทำสอบเเทนตนเอง

ส.ส.เทด ลิว จากพรรคเดโมเเครต ซึ่งอยู่ในคณะกรรมธิการวิทยาศาสตร์ของสภาผู้เเทนราษฎรสหรัฐฯ เขียนความเห็นในบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ New York Times ว่าเขาเห็นถึงโอกาสจากเอไอในการช่วยให้สังคมพัฒนาในอนาคต แต่ก็รู้สึกกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเอไอไม่ได้ถูกตรวจสอบ หรือไม่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ใด ๆ

ส.ส.ลิว ยังได้เสนอร่างญัตติที่ใช้ ChatGPT เขียนขึ้น ต่อสภา โดยร่างดังกล่าวระบุว่า สภาควรให้ความสนใจต่อเอไอ “เพื่อทำให้เเน่ใจว่าการพัฒนาและการใช้เอไอดำเนินไปในทางที่ปลอดภัย เป็นไปตามหลักจรรยาบรรณ และเคารพสิทธิและความเป็นส่วนตัวของชาวอเมริกันทุกคน” ร่างญัตติระบุด้วยว่า “ประโยชน์จากเอไอควรกระจายสู่สังคมอย่างกว้างขวาง และความเสี่ยง (จากเอไอ) ต้องถูกจำกัดให้อยู่ในระดับต่ำ”

เมื่อเดือนมกราคม เเซม อัตเเมน ซีอีโอของบริษัทโอเพนเอไอ พบกับส.ว.อเมริกันหลายคน เช่น มาร์ค วอร์เนอร์, รอน ไวเดน และ ริชาร์ด บลูเเมนธัล รวมถึง ส.ส.เจค ออชินคลอส ตามรายงานของรอยเตอร์ที่อ้างเเหล่งข่าวที่อยู่ในคณะทำงานของนักการเมืองเดโมเเครตเหล่านี้

แหล่งข่าวที่อยู่ในคณะทำงานของส.ว.รอน ไวเดน คนหนึ่งกล่าวว่า ไวเดนกดดันให้อัตเเมนคำนึงถึงความจำเป็นที่ต้องทำให้เอไอหลีกเลี่ยงอคติในการประมวลผล ที่อาจนำไปสู่การเหยียดคนบางกลุ่ม ในประเด็นต่าง ๆ เช่น โอกาสการมีที่อยู่อาศัย และการจ้างงาน

สื่อหลายเเห่งรายงานว่า ความกังวลต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้เอไอช่วยนักเรียนทำสอบหรือทำการบ้าน ได้ทำให้โรงเรียนในนครนิวยอร์คและนครซีเเอตเติลห้ามใช้ ChatGPT ไปแล้วก่อนหน้านี้

บริษัทโอเพนเอไอ กล่าวในเเถลงการณ์ว่า “เราไม่ต้องการให้ ChatGPT ถูกใช้เพื่อการเบี่ยงเเบนจุดประสงค์ที่เเท้จริง” ด้านการศึกษาและเรื่องอื่น ๆ

ในบทสัมภาษณ์กับนิตสารไทม์ เจ้าหน้าสูงสุดฝ่ายเทคโนโลยีของโอเพนเอไอ มิรา มูราติ กล่าวว่า ทางบริษัทยินดีรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ ทั้งรัฐบาลและผู้กำกับดูเเล

เธอกล่าวว่า “มันไม่เร็วเกินไปที่” ผู้กำกับดูเเลจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเวลานี้

แอนดริว เบิร์ต ผู้บริหารบริษัทกฎหมาย BNH.AI ที่เชี่ยวชาญเรื่องไอเอ กล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งชาติ

เขากล่าวว่า บุคคลหรือองค์กรที่ไม่ใช่รัฐอาจใช้ระบบเอไอในการสร้างข้อมูลที่ผิดหรือเป็นภัยต่อสหรัฐฯ ได้

และเมื่อถาม ChatGPT ว่าโปรเเกรมนี้ควรถูกกำกับดูเเลอย่างไร ระบบตอบว่า “โมเดลของภาษาเอไอมีความเป็นกลาง ข้าพเจ้าไม่มีความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายที่เฉพาะเจาะจง ที่อาจจะ หรืออาจจะไม่ ถูกใช้เพื่อกำกับดูเเลระบบเอไอ เเบบเดียวกับข้าพเจ้า”

ในคำตอบ ระบบยังได้ระบุถึงหัวข้อที่ผู้กำกับดูเเลควรให้ความใส่ใจ เช่น ความเป็นส่วนตัว อคติ ความเป็นธรรม และความโปร่งใสในการประมวลผลเพื่อนำเสนอคำตอบต่อผู้ใช้

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้