แม่เศร้า ลูกสาว ม.1 ป่วยซึมเศร้ารุนแรง หลังถูกเพื่อนบูลลี่ เขียนด่า กรีดสมุด สาดน้ำใส่

174
แชร์ข่าวนี้

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. 66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของ น.ส.ศิริรัตน์ อายุ 36 ปี หลังวัดป่าประดู่ ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อตรวจสอบกรณีที่มีที่เพจดังได้มีการโพสต์ข้อความว่า เด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ระยอง ได้ถูกเพื่อนบูลลี่ ทำลายข้าวของ กรีดสมุด เขียนคำต่อว่า จนทำให้เด็กนักเรียนคนดังกล่าว ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล

เมื่อไปถึงพบกับ น.ส.ศิริรัตน์ ได้เปิดเผยว่า กรณีโพสต์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง กับบุตรสาวของตนเอง อายุ 13 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สำหรับเรื่องดังกล่าว ตนเองเพิ่งมาทราบ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนเองได้รับแจ้งจากทางโรงเรียน ว่าบุตรสาวป่วยขณะทางโรงเรียนได้ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ระยอง ตนเองจึงรีบเดินทางไปที่โรงพยาบาล พบว่าบุตรสาวเงียบไม่ยอมพูดกับใคร แล้วยังออกอาการอาละวาดขว้างปาสิ่งของ จนต้องเรียกพยาบาลมาช่วย อาการจึงเริ่มสงบ

วันรุ่งขึ้น (17 ก.พ.) จึงหยุดเรียน ทางตนเองจึงเดินทางไปโรงเรียน ไปเอากระเป๋าหนังสือที่บุตรสาวลืมไว้ พอเห็นกระเป๋าก็ถึงกับงง เพราะมีน้ำหมึกปากกาเลอะเทอะเต็มกระเป๋า สมุดถูกกรีดจนขาด แล้วยังมีการเขียนข้อความด่าอย่างรุนแรง จึงเข้าพบกับครูเพื่อให้ทราบเรื่อง ซึ่งครูก็ชี้แจงและลงโทษเด็กที่จับสมุดทุกคน ซึ่งตนคิดว่าถูกตีก็เท่านั้นเพราะก็ไม่ได้แก้ไขอะไรเพราะทรัพย์สินเสียหายและสภาพจิตใจน้องก็แย่มาก ตนก็ไม่ได้คุยมากเพราะตนจะต้องรีบกลับไปพบจิตแพทย์เรื่องอาการของลูกสาว และผลใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลระยองออกมาว่าลูกสาวนั้น “มีความผิดปกติแบบโรคจิตเภทกึ่งอารมณ์แปรปรวนชนิดซึมเศร้า” จึงรับเอายามารับประทานเพื่อรักษา

ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ แม่ก็นัดเคลียร์ใจกับเพื่อนๆ ของลูก ซึ่งตนก็ถามว่าเกลียดลูกแม่ตรงไหน ลูกแม่ไปทำอะไรให้ ทางเพื่อนๆ น้องก็บอกว่าน้องได้มีการโกหกเรื่องการสร้างตัวตน ซึ่งก็ถามน้องต่อหน้าเพื่อนๆ น้องก็บอกว่าจริงน้องโกหกไปเพราะว่าต้องการให้เพื่อนยอมรับในตัวเอง ซึ่งแม่ก็ให้น้องขอโทษเพื่อนๆ และก็บอกกับลูกว่าเราต้องอยู่กับความจริง น้องทำแบบนี้ไม่ถูก หลังจากนั้นแม่ก็คิดว่าทุกอย่างจบแล้ว แต่ก็ไม่จบ จนมาเจอปัญหาแบบนี้คือกรีดสมุดน้องและบูลลี่น้อง คุณแม่ก็เสียใจมาก ต้องการให้บุตรสาวหายจากซึมเศร้า และต้องการให้ทางโรงเรียนช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว อย่าปล่อยผ่านเพราะนี่มันเป็นเรื่องของผลกระทบต่อจิตใจเด็ก และเพื่อหาทางออก ก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายกับบุตรสาวของตนเอง และหลังน้องเรียนจบ ม.1 ตนคิดว่าตนกับน้องจะย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ภาคเหนือเพื่อแก้ปัญหานี้

ด้าน เด็กหญิงบี อายุ 13 ปี บอกว่าตนโดนแกล้งกนักมาก โดนเอาน้ำสาดใส่ตอนอยู่ในห้องน้ำ แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร และยังเขียนข้อความด่าบนโต๊ะของตน หนักสุดก็กรีดสมุดและก็บีบหมึกปากกาทิ้ง ส่วนครูประจำชั้นก็ฝากตนมาบอกแม่ว่าให้มาเขียนใบลาออกได้แล้ว

ล่าสุดแม่น้องได้ติดต่อกับทาง ผอ.ของโรงเรียนแล้ว ซึ่ง ผอ.เพิ่งจะทราบเรื่องจากแม่น้อง และจะเรียกครูประจำชั้นมาสอบถามต้นสายปลายเหตุเรื่องดังกล่าวและหาทางแก้ร่วมกัน

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้