ศาลฏีกา ชี้ “กนกวรรณ” ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง รุกป่าเขาใหญ่ ปิดฉากชีวิตการเมือง

159
แชร์ข่าวนี้

ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่คมจ.2/2565 ระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้อง และ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้คัดค้าน เรื่อง การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงเรื่องรุกป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดปราจีนบุรี

โดยศาลฎีกา ได้วินิจฉัยปัญหาว่านางกนกวรรณ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาได้กระทำการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวมตามมาตรฐานทางจริยธรรม คือได้อ้างว่าซื้อที่ดินดังกล่าวจากนายทิว มะลิซ้อนเมื่อปี 33 และได้ทำประโยชน์ปลูกผลไม้ตามฤดูกาล ขณะเดียวกันนางกนกวรรณให้การว่าตนเองมีคุณสมบัติในการครอบครองและออกโฉนดที่ดินต่อเจ้าหน้าที่สอบสวนสิทธิ และจากการสอบสวนและตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศและการลงพื้นที่จริง

พบว่าไม่ได้ทำประโยชน์ตามที่นางกนกวรรณกล่าวมา แต่สภาพที่ดินเป็นป่ารกทึบ ไม่มีถนนตัดผ่าน สภาพดินไม่เหมาะกับทำเกษตรเพราะเป็นหินกรวด และดินลูกรังผสมบางส่วน

นอกจากนี้ ผู้คัดค้านแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเองถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรม และผู้คัดค้านกระทำการที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรม จึงฟังได้ว่าเป็นการให้ถ้อยคำเท็จ ผู้คัดค้านไม่ใช่บุคคลที่มีคุณสมบัติที่ขอออกโฉนดที่ดินได้

เมื่อผู้คัดค้านขอออกโฉนดที่ดินโดยไม่มีคุณสมบัติตามกฎหมายแล้วได้โฉนดที่ดินมาตั้งแต่ปี 2554 และคงถึงครองโฉนดที่ดินดังกล่าวมาจนถึงวันที่ผู้คัดค้านดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการตลอดมาจนถึงปัจจุบัน จึงเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเอง ถือว่ามีลักษณะร้ายแรงตามมาตรฐานทางจริยธรรมข้อ 27 วรรคหนึ่ง

นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของผู้คัดค้านที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

แม้ไม่ได้เป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยตรงก็ตาม เพราะอาจทำให้สาธารณชนขาดความเชื่อถือศรัทธาต่อการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการจึงเป็นการก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการศึกษาธิการด้วยตามมาตรฐานทางจริยธรรม

ทั้งนี้ ศาลฎีกาพิพากษาว่า นางกนกวรรณหรือผู้คัดค้านฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 235 วรรคหนึ่ง วรรคสาม และวรรคสี่ ประกอบพระราชบัญญัติประกอบพระธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 โดยให้นางกนกวรรณ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการนับตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.65

ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยให้เพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของผู้คัดค้านตลอดไปรวมถึงไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งของผู้คัดค้าน 10 ปีนับตั้งแต่วันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษา

ขอขอบคุณ

ภาพ :ภาพประกอบจาก thaigov.go.th

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้