“ธนาธร-ปิยบุตร” ปราศรัยสมุทรสาคร กองเชียร์เพียบ

4434
แชร์ข่าวนี้

ภายหลังพรรคก้าวไกล ปราศรัยใหญ่บางแคเสร็จสิ้น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและนายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ได้เดินทางต่อไปยัง จ.สมุทรสาคร เปิดเวทีปราศรัยที่ลานตลาด INBOX ริมถนนพระราม 2 มีประชาชนนับพันเข้าร่วมฟังการปราศรัยจนแน่นพื้นที่ โดยจุดนี้มีเก้าอี้ไม่เพียงพอ จนประชาชนที่มาต้องปูเสื่อนั่งเพิ่ม นอกจากนี้ยังมีประชาชนเกาะรั้วสะพานลอยด้านบนฟังการปราศรัยนับชั่วโมง

สำหรับเนื้อหาการปราศรัยของเวทีนี้มีความคล้ายกันกับเวทีบางแค นายปิยบุตร กล่าวว่า เป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับพรรคก้าวไกลและผู้สมัครแต่ละเขต 4 ปีที่แล้วได้ทำหน้าที่หาเสียง พรรคอนาคตใหม่ เพราะได้ลงส.ส.โดยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเป็นจำนวนมากว่า 6 ล้านเสียง แต่ตนเองถูกตัดสิทธิ์เป็นระยะเวลา 10 ปี หลังถูกยุบพรรค นี่ผ่านไป 3 ปี แล้ว เหลืออีก 7 ปี จึงถามว่าพี่น้องประชาชนรอได้หรือไม่

พร้อมกล่าวว่า วันนี้คะแนนนิยมของพรรคเริ่มมาแรงเป็นอันดับที่ 1 แล้ว และยังมีนักร้องหามาร้องเยอะ แปลว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี และได้มีการประกาศโรดแมปชัดเจนหากได้เป็นรัฐบาล 100 วัน จะทำอะไร 1 ปี จะทำอะไร ยืนยันพรรคก้าวไกล มีจุดยืนชัดเจน แต่ก็มีคนปรามาสว่าเป็นคนใหม่ แต่เราก็ทำให้ดูว่าคนใหม่จะเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างชัดเจนตรงไปตรงมาแน่นอน ถ้าหากเลือกคนเก่า ก็บริหารงานแบบเก่าๆ อย่างที่ประชาชนเห็น ตอนนี้มีคำพูดว่าต้องเลือกให้มียุทศาสตร์ 4 ปีที่แล้วก็เป็นแบบนี ตกลงประเทศนี้ต้องเลือกพรรคเขาพรรคเดียวหรือ หากมีการผสมพันธุ์ข้ามขั้ว พรรคก้าวไกลก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน

“ปล่อยข่าวบ้าๆบอๆ ว่าเลือกก้าวไกลได้ประยุทธ์ จะได้ได้อย่างไร ทั้งตรวจสอบ ทั้งวิจารณ์”

จากนั้นนายปิยบุตร ได้ส่งไม้ต่อให้นายธนาธร โดยได้สวมกอดกันบนเวที หลังจากนั้น ได้มีกองเชียร์นำพวงมาลัยมาให้ หนึ่งในนั้นเป็นบิลค่าไฟ นายธนาธร ได้เล่นมุกว่า เดือนหน้าประชาชน จะไม่สนใจค่าไฟกันแล้ว เพราะหม้อแปลงถูกถอด พร้อมปราศรัยว่า เรื่องการเมืองดี ประเทศไทยไม่เคยได้รับโอกาสให้ประชาธิปไตยเติบโต เรายังอยู่ในวังวนแบบเดิม

เราต้องกล้าเผชิญหน้าปัญหายากๆ เช่น ปฏิรูปกองทัพ เพื่อไม่ให้เกิดรัฐประหาร เราต้องกล้าปฏิรูประบบราชการ กระจายอำนาจกลับมาให้ท้องถิ่น

ส่วนต่อมาเป็นเรื่องปากท้องดี เราต้องกล้าชนกับทุนผูกขาด

“เสียดายจริงๆ ถ้าพวกเราเป็นรัฐบาล ทรูกับดีแทคคงไม่ได้ควบรวม กลุ่มทุนไฟฟ้าไม่ได้ผูกขาดแน่นอน” นายธนาธรกล่าว

นายธนาธร ถามผู้ปราศรัยว่าเราต้องกล้าชนกับระบบราชการใช้หรือไม่ เช่น กกต.ไปดูงานต่างประเทศช่วงนี้เหมาะสมหรือไม่ ย้ำว่าหากตัดงบประมาณส่วนเกิน ตนเชื่อว่าจะสร้างรัฐสวัสดิการได้

ส่วนเรื่องมีอนาคต เราต้องเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศ ตอนนี้มีแอปพลิเคชั่นไหนที่เป็นของคนไทยบ้าง นอกจากเป๋าตังและหมอพร้อม ย้ำว่าการลงทุนในเทคโนโลยี ในวิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งสำคัญ ต้องใส่ใจกับเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดการแข่งขัน การส่งออก สร้างงานให้ลูกหลาน

นายธนาธร ยังยกตัวอย่าง ปัญหาน้ำประปา โดยระบุว่า เป็นปัญหาที่สะท้อนความเหลื่อมล้ำ ทุกคนเลือกเกิดที่จังหวัดใดไม่ได้ แต่ทุกที่ต้องมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน

“ใจร้อนเกินไป มาบอกพ่อแม่พี่น้องที่สมุทรสาครสิครับ ว่าอยากได้ประปามันใจร้อนเกินไป สิ่งที่เราต้องกลัวไม่ใช่การเดินไว แต่เป็นการเดินช้าต่างหาก ตกลงจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังจริงหรือ สิ่งที่เราต้องกลัวคือเรากล้าเผชิญหน้ากับโลกหรือไม่”

นายธนาธร กล่าวว่า มีคนบอกว่าพวกเราสุดโต่ง แต่พวกเราสุดโต่งตรงไหน เพราะนี่เป็นการทำให้ประเทศไทยเจริญแล้ว นี่คือการก้าวหน้าแบบญี่ปุ่น ไต้หวัน คนที่เห็นความก้าวหน้าสุดโต่ง เขาเรียกว่าคนล้าหลัง ฝ่ายอนุรักษ์นิยมไม่เคยเห็นหัวประชาชน เขียนกติกาเพื่อให้สืบทอดอำนาจ พร้อมจะเอาคนเห็นต่างเข้าคุกตลอดเวลา บิดเบือนหลักนิติรัฐนิติธรรม เราจะเอาปัญหาของประเทศซุกไปใต้พรมแล้วให้คนรุ่นต่อไปเข้าไปจัดการ จะเอาแบบนั้นหรือไม่ ตนขอเชิญชวนทุกคนให้กล้าทะเยอทะยาน

ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : INNnews


แชร์ข่าวนี้