Apple เปิดตัว iPhone 15 อย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 12 กันยายน 2566 โดยมีการเปิดตัวทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ iPhone 15, iPhone 15 Plus, iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max นอกจากนี้ iPhone 15 ยังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การเปลี่ยนพอร์ตการเชื่อมต่อจาก Lightning เป็น USB-C เช่นเดียวกับอุปกรณ์ของ Apple รุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน
iPhone 15 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จาก Apple ที่มาพร้อมประสิทธิภาพที่ดีขึ้น กล้องหลังที่คมชัด และพอร์ตการเชื่อมต่อที่ทันสมัย เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่คุ้มค่าและใช้งานได้ยาวนาน ซึ่งหลังจากเปิดตัว iPhone 15 ไปแล้วนั้น ทีมงานได้รวบรวมข้อมูลเรื่อง ราคา iPhone 15 ทุกรุ่น พร้อมข้อมูลวันจอง และวันที่วางขายในไทย สำหรับเหล่าสาวกไอโฟน ที่ต้องการเป็นเจ้าของ ดังนี้
ราคา iPhone 15 ครบทุกรุ่น ดังนี้
ราคา iPhone 15 Pro
- iPhone 15 Pro ขนาด 128GB ราคา 41,900 บาท
- iPhone 15 Pro ขนาด 256GB ราคา 45,900 บาท
- iPhone 15 Pro ขนาด 512GB ราคา 54,900 บาท
- iPhone 15 Pro ขนาด 1TB ราคา 63,900 บาท
ราคา iPhone 15 Pro Max
- iPhone 15 Pro Max ขนาด 256GB ราคา 48,900 บาท
- iPhone 15 Pro Max ขนาด 512GB ราคา 57,900 บาท
- iPhone 15 Pro Max ขนาด 1TB ราคา 66,900 บาท
ราคา iPhone 15
- iPhone 15 ขนาด 128GB ราคา 32,900 บาท
- iPhone 15 ขนาด 256GB ราคา 36,900 บาท
- iPhone 15 ขนาด 512GB ราคา 45,900 บาท
ราคา iPhone 15 Plus
- iPhone 15 Plus ขนาด 128GB ราคา 37,900 บาท
- iPhone 15 Plus ขนาด 256GB ราคา 41,900 บาท
- iPhone 15 Plus ขนาด 512GB ราคา 50,900 บาท
วันวางจำหน่าย iPhone 15 วันที่เท่าไหร่
เปิดสั่งจองล่วงหน้าในวันที่ 15 กันยายน 2023 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 กันยายน 2023
iPhone 15 แต่ละรุ่นมีสีอะไรบ้าง
สำหรับสีของ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus มีให้เลือก 5 สี สีชมพู สีเหลือง สีเขียว สีฟ้า และสีดำ
ส่วน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max พร้อมวางจำหน่ายใน 4 สีสันใหม่โดนใจ ได้แก่ สีไทเทเนียมดำ สีไทเทเนียมขาว สีไทเทเนียมน้ำเงิน และสีไทเทเนียมธรรมชาติ
สรุป
iPhone 15 เป็น iPhone รุ่นที่มีการปรับปรุงหลายประการ แต่ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดจะอยู่ที่ชิป A17 Bionic และกล้องหลัง 48 ล้านพิกเซล ชิป A17 Bionic ใหม่ให้ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน iPhone ได้อย่างราบรื่นและนานขึ้น ส่วนกล้องหลัง 48 ล้านพิกเซลให้ความละเอียดที่สูงกว่า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพและวิดีโอที่มีรายละเอียดที่คมชัดยิ่งขึ้น
สำหรับการเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C แทนพอร์ต Lightning เนื่องจากพอร์ต USB-C เป็นมาตรฐานที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ iPhone กับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
ขอขอบคุณ
แหล่งที่มา : sanook
