ใครที่เคยประทับใจในฟอร์มการเล่นของเด็กปั้นจากอะคาเดมีของโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อย่าง คริสเตียน พูลิซิช หรือ มาริโอ เกิตเซอ เตรียมตะลึงกับฝีเท้าดาวรุ่งดวงใหม่แห่งรั้ว “เสือเหลือง” ได้เลย เพราะ ยุสซูฟา มูโคโค เด็กปั้นดอร์ทมุนด์วัยแค่ 15 ปีเพิ่งจะทำสถิติใหม่ในบุนเดสลีการุ่นยู 17 และยู 19 ได้ในช่วงเวลาเพียงสองฤดูกาลเท่านั้น
หลังไต่เต้าจากทีมดอร์ทมุนด์รุ่นอายุไม่เกิน 15, 16 และ 17 ปีอยู่เป็นเวลารวมสามปี เจ้าหนูวัย 15 คนนี้ก็ได้ก้าวข้ามรุ่นขึ้นมาเล่นในทีมชุดยู 19 อ่านไม่ผิดหรอก เด็กคนนี้อายุเพิ่งจะ 15 ปีจริงๆนั่นแหละ! มูโคโคพัฒนาฝีเท้าตนเองได้อย่างก้าวกระโดด และในฤดูกาลล่าสุด เจ้าเด็กดาวรุ่งคนนี้ยิงประตูรวมไปแล้วถึง 34 ประตู ทั้งๆที่ยังเหลือการแข่งขันอีกถึง 6 นัด ทุบสถิติเดิมที่เคยทำไว้ 33 ประตูของ ฮาลุค เตอร์เครี จากทีมเฟาเอฟเอล โบคุ่ม ในฤดูกาล 2004/05 และ โยฮันเนส เอ็กเกอชไตน์ จากแวร์เดอร์ เบรเมน ในฤดูกาล 2015/16
“ในตอนนี้ยุสซูฟาอายุถึงเกณฑ์ที่สามารถเล่นในทีมรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปีได้แล้ว เราเห็นว่าปีนี้เป็นปีที่เหมาะจะให้เขาเลื่อนขึ้นมาเล่นในรุ่นอายุนี้ซึ่งมันก็สอดคล้องกับความสามารถของเขา เขายิงประตูได้มากมาย เป็นคนกระตือรือร้นมาก กระหายในความสำเร็จ ขยัน และมักมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์เสมอ นั่นคือสิ่งที่เรามอง เขามีพร้อมหมดแล้ว” ลาร์ส ริคเคน หัวหน้าทีมเยาวชนกล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Bild ในเยอรมนี
หลังสร้างสถิติใหม่ด้วยการยิงรวม 50 ประตูให้ทีมชุดยู 17 ในฤดูกาล 2018/19 มูโคโคก็ได้ก้าวขึ้นมาเล่นในระดับที่สูงขึ้นไปอีก เขาโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียว่า “ผมภูมิใจและตื่นเต้นกับความสำเร็จที่เราทำได้ ห้าสิบประตู ผมคงทำไม่ได้หรอกถ้าไม่มีเพื่อนร่วมทีม ผมจะกลับมาอย่างแข็งแกร่งกว่าเดิมขึ้นไปอีก และเราจะได้สนุกกันในรุ่นยู 19!”
และแล้วเจ้าหนูมูโคโคก็มาตามนัด ยังไม่ทันจะจบเดือนสิงหาคมด้วยซ้ำ แต่มูโคโคกดคนเดียวไปแล้วถึงสิบลูก พอถึงช่วงสิ้นเดือนกันยายน เขาก็ทำแฮตทริกที่ 2 ยิงรวมไป 13 ประตูจากเพียง 6 เกมลีกเท่านั้น แถมยังมีส่วนสำคัญพาทีมเอาชนะบาร์เซโลน่า ในศึกยูเอฟ่า ยูธลีก ไปได้ 2-1 ประตูอีกด้วย
จุดเริ่มต้นที่ทำให้เจ้าหนูมูโคโคเป็นที่จับตานั้นเริ่มมาจากเกมเรเวียร์ดาร์บี้ระหว่างดอร์ทมุนด์กับชาลเก้ รุ่นยู 17 ในตอนที่เขาอายุได้เพียง 12 ปี ซึ่งเจ้าวันเดอร์คิดคนนี้สวมบทฮีโร่กดคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ทีมคัมแบ็คตีเสมอชาลเก้ 4-4 ประตูอย่างสุดมัน กระทั่งจบฤดูกาลนั้นแข้งเด็กเลือดแคเมอรูนยิงรวมไปถึง 40 ประตูพาทีมดอร์ทมุนด์จบฤดูกาลเป็นอันดับหนึ่งของตารางลีกภูมิภาค แถมยังยิงประตูสำคัญในรอบรองที่พบกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซน และในรอบชิงที่พบบาเยิร์น มิวนิค จนพาทีมคว้าแชมป์ประจำประเทศได้สำเร็จ
ในฤดูกาล 2018/19 เขาพาทีมดอร์ทมุนด์จบอันดับหนึ่งบนตารางได้อีกครั้ง ซึ่งในรอบรองชนะเลิศ มูโคโคก็ยิงรวม 2 เลกได้อีก 3 ประตู แม้จะพลาดท่าพ่ายโคโลญจน์ ไปในนัดชิงชนะเลิศอย่างน่าเสียดาย แต่ผลงานยิงรวม 50 ประตูในฤดูกาลเดียวก็ถือเป็นสถิติที่น่าทึ่งสุดๆ
ยุสซูฟา มูโคโค เกิดเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2004 ที่ประเทศแคเมอรูน เริ่มต้นค้าแข้งกับสโมสรซังต์ เพาลี ในบุนเดสลีกา 2 เมื่อปี 2016 ก่อนจะกลายเป็นดาวเด่นท่ามกลางนักเตะเยาวชนที่ทุกคนพากันจับตามอง ฟอร์มอันโดดเด่นของมูโคโคไม่อาจรอดพ้นสายตาบรรดาโค้ชเยาวชนทีมชาติเยอรมนี เขาถูกเรียกติดธงทีมอินทรีเหล็กในปี 2017 และทำผลงานสอบผ่านยิงได้ 3 ประตูจาก 4 นัดแรก
แม้จะเหลืออีกหลายปีกว่าที่มูโคโคจะก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของดอร์ทมุนด์ แต่เจ้าหนูมหัศจรรย์คนนี้มีแผนการณ์อันยิ่งใหญ่ไว้ให้กับตัวเองแล้ว เขาให้สัมภาษณ์ว่า “เป้าหมายของผมก็คือการได้เล่นฟุตบอลอาชีพให้กับดอร์ทมุนด์ คว้าถ้วยแชมเปียนส์ลีกกับทีมและคว้ารางวัลบัลลงดอร์”
แน่นอนว่าลูเซียง ฟาฟร์ เฮดโค้ชทีม “เสือเหลือง” กำลังคอยจับตาดูพัฒนาการของมูโคโคอยู่ ฟาฟร์กล่าวว่า “เรามีแผนการณ์สำหรับเขา แต่ผมยังตอบไม่ได้ว่าเขาจะได้ขึ้นมาเล่นกับเราเมื่อไหร่ อาจจะในเดือนมีนาคม แต่เรายังคงต้องรออะไรบางอย่างก่อน”
นูริ ซาฮิน ยังคงเป็นเจ้าของสถิตินักเตะที่อายุน้อยที่สุดของดอร์ทมุนด์และของบุนเดสลีกาด้วยวัย 16 ปี 11 เดือน 1 วัน ซึ่งถ้าหากมูโคโคมีโอกาสได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลหน้า เขาก็จะกลายเป็นเจ้าของสถิติใหม่ทันที
