นายบุญยง ตันสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารทั้งหมด 15 แบรนด์ อาทิ เซ็น (ZEN) มุฉะ บาย เซ็น อากะ (AKA) ดินส์ (Din’s) ออน เดอะ เทเบิล ตำมั่ว ลาวญวน และเขียง เป็นต้น เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 คาดว่าจะรายได้จะไม่ดี ผลจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคเเพิ่มความระมัดระวังการใช้ชีวิตภายนอกบ้านมากขึ้น เดินห้างลดลง ประกอบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงด้วยเช่นกัน ส่งผลต่อยอดขายร้านอาหารของบริษัท โดยเฉพาะในเดือนก.พ.นี้ ลดลงถึง 20% และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงกลางปี 2563 ส่งผลให้บริษัทปรับประมาณการรายได้ปีนี้ลงเหลือเติบโตที่ 5-10% จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายว่าจะเติบโตได้ 15-20% จากรายได้ปี 2562 ที่ทำได้ 3,144 ล้านบาท
“ตอนนี้คนอยู่ในความกังวล ไม่สบายใจที่จะอยู่นอกบ้าน เดิมมีการมองกันว่าห้างใจกลางเมือง จะมียอดคนเข้ามาใช้บริการสูง แต่ปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่เสี่ยง และพื้นที่นอกศูนย์ฯ อาทิ ร้านตึกแถว ยอดขายกลับเพิ่มขึ้นสูงมาก ในขณะที่ค่าเช่าพื้นที่ในห้างราคาค่อนข้างสูง ซึ่งขณะนี้ต้องต่อรองให้ปรับค่าเช่าลดลง และในส่วนของจำนวนพนักงานของบริษัท ซึ่งโดยปกติธุรกิจอาหารจะมีพนักงานเข้าออกเฉลี่ยประมาณ 2-3% ดังนั้นจะไม่มีมาตรการรับพนักงานใหม่เพิ่ม เพียงแต่ปรับลดสัดส่วนพนักงานพาร์ตไทม์ ที่ปกติจะมีประมาณ 30% ซึ่งเป็นนักเรียนที่มาทำงานกะเช้าและบ่าย แต่ยังไม่มีนโยบายปรับลดพนักงานประจำลง”
นายบุญยง กล่าวอีกว่า ในขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับระบบการบริหารจัดการภายในร้านเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยดำเนินการปรับพื้นที่ครัวของร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ ZEN เป็นครัวกลางหรือโค คุ๊กกี้ สเปซ เพื่อรองรับธุรกิจบริการส่งอาหารตามบ้าน หรือเดลิเวอร์รี่ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าในสภาวะปัจจุบันที่ต้องทำงานจากที่บ้าน ทำให้แพลตฟอร์มสั่งซื้ออาหารออนไลน์เติบโตสูงมาก ซึ่งบริษัทจะเริ่มดำเนินการเฟสแรกใน 5 สาขา ประกอบด้วยสาขาดองกิ มอลล์ ทองหล่อ,สยามสแควร์ วัน, เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะแจส วังหิน และ อาคารออลซีซั่น โดยกำหนดเปิดบริการในวันที่ 18 มี.ค.นี้ ในปี 2563 จะมียอดขายจากช่องทางเดลิเวอรี่ที่ประมาณ 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 120 ล้านบาท ในปีก่อน
“ณ วันนี้เรามองผลกระทบใน 2 ระดับ คือในกรณีพื้นฐาน ช่วงระยะเวาลาการแพร่ระบาดของไวรัสที่ 6 เดือน เชื่อว่ายอดขายรวมน่าจะยังเติบโตได้ 5-10% แต่ถ้าสถานการณ์แย่สุดถ้ากินเวลานานถึง 1 ปี จะส่งผลต่อภาพรวมธุรกิจร้านอาหารปีนี้ลดลง 5-10% ในรอบ 10 ปี จาก 4.4 แสนล้านบาท ในปีที่แล้ว เหลือ 4.1 แสนล้านบาท ในขณะที่ภาพรวมตลาดเดลิเวอร์รี่ปีนี้น่าจะเติบโตเท่าตัวหรืออยู่ที่เกือบ 1 แสนล้านบาท จากปีที่แล้ว 5 หมื่นล้านบาท”
