ตำนาน “โกลเด้น บอย” ทั้ง 7 ในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล

249
แชร์ข่าวนี้

สำหรับคอบอลในยุคปัจจุบันอาจไม่คุ้นกับคำว่า “โกลเด้น บอย” แห่งวงการลูกหนังกันสักเท่าไหร่นัก เพราะดูเหมือนจะไม่มีการสืบทอดตำนานนี้มาสู่แข้งรุ่นหลังๆ (หรือหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ก็ไม่รู้เหมือนกัน)

แต่สำหรับรุ่นใหญ่วัยดึกที่ผ่านการเชียร์บอลมานานระดับ 20 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นเคยกันดีว่าคนที่ถูกยกย่องให้เป็น โกลเด้น บอย เนี่ยไม่ใช่ว่าแค่ดังวูบวาบแล้วจะเป็นได้ง่ายๆ มันต้องมีคุณสมบัติหลายอย่างประกอบกัน เช่น พรสวรรค์สูงกว่าคนอื่นชัดเจน, เป็นกุญแจสำคัญของทีมได้ตั้งแต่อายุน้อยๆ, ฝีเท้าเข้าขั้นระดับโลก ไปจนถึงหน้าตาอันหล่อเหลา

และถึงแม้ ตำนานโกลเดนบอย จะมีจุดเริ่มต้นมาจากในลีกอิตาลี แต่ก็เมื่อประเทศอื่นๆ มีแข้งพรสวรรค์เข้าข่ายที่ว่าโผล่มาก็มักจะได้รับฉายานี้ไปครองเช่นกัน

ถ้าอยากรู้แล้วว่านักเตะระดับตำนานผู้เคยได้รับฉายาเท่ๆว่า “โกลเด้น บอย” มาก่อนนั้นมีใครบ้างเลื่อนไปดูกัน! (แน่นอนว่าไม่ใช่ รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม โกลเด้น บอย ที่เขาแจกกันทุกปีอยู่ ณ ปัจจุบัน)

1. ไมเคิล เลาดรูป

1

ยุค 80-90 ถือเป็นยุคเรเนอซองส์ของวงการลูกหนังเลยก็ว่าได้ เพราะมีเหล่านักฟุตบอลฝีเท้าระดับพระกาฬสร้างชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมามากมายจนติดตรึงอยู่ในความทรงจำของแฟนๆมาจนถึงทุกวันนี้

และเลาดรูปผู้พี่อย่าง “ไมเคิล” เองก็เป็นหนึ่งในชายผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของวงการ ณ ขณะนั้น เขาสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองได้ตั้งแต่อายุยังน้อยกับทีม บรอนด์บี ในลีกเดนมาร์กบ้านเกิด แล้วย้ายมาขยายอิทธิพลต่อกับ ลาซิโอ และ ยูเวนตุส ซึ่งช่วงนี้แหละที่ได้รับการยกย่องจากสื่ออิตาลีว่าเป็น “โกลเด้น บอย” เต็มตัว

แต่เลาดรูปประสบความสำเร็จเป็นแชมป์มากสุดตอนเล่นให้ บาร์เซโลนา เพราะคว้าแชมป์ได้มากถึง 9 รายการจาก 5 ซีซั่นที่ค้าแข้งอยู่ และน่าเสียดายที่เขาไม่ได้ติดทีมชาติเดนมาร์กชุดแชมป์ยูโร 1992 เนื่องจากมีปัญหากับโค้ช ไม่งั้นล่ะก็โปรไฟล์จะยิ่งใหญ่กว่านี้อีกหลายเท่าเลย

2. ราอูล กอนซาเลซ

2

สำหรับตำนานของ เรอัล มาดริด คนนี้ เขาถือเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งซานติอาโก เบอร์นาบิว เลยก็ว่าได้ เพราะเติบโตขึ้นมาจากการเป็นเด็กปั้น จนได้กลายเป็นกัปตันทีมและแข้งระดับตำนานในท้ายที่สุด

ช่วงที่ราอูลกำลังฉายแสงเจิดจ้าใหม่ๆนั้น เขาก็ถูกเรียกว่าเป็น “โกลเด้น บอย แห่งสเปน” เพราะมีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งด้านฝีเท้าและภาพลักษณ์ แถมยังกลายเป็นแข้งคีย์แมนของทัพราชันชุดขาวได้ตั้งแต่อายุน้อย ทั้งๆที่ในทีมมีแต่แข้งระดับโลกอัดแน่นอยู่เต็มไปหมด

สำคัญกว่านั้นคือ ไม่ว่ามาดริดจะนำเข้าผู้เล่นชั้นนำมาสร้างทีมชุด “กาแลคติกอส” มากแค่ไหน ราอูลก็ยังคงถูกยกย่องให้เป็นราชาเหนือราชันผู้ไม่เคยถูกเบียดลงจากบัลลังก์ได้เลย จนกระทั่งเจ้าตัวตัดสินใจย้ายออกไปอยู่ ชาลเก้ 04 เองในบั้นปลายเส้นทางอาชีพ

3. โทมัส โบรลิน

3

หากใครได้ติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีกกันมาตั้งแต่ยุค 90 เชื่อว่าคงจะต้องรู้จัก “พี่อ้วนพริ้ว” คนนี้กันเป็นอย่างดี เพราะเขาคือนักเตะที่มีร่างกายอวบจนหลายคนไม่อยากเชื่อว่าจะทำอะไรได้มากมายแบบนั้น

แต่ถึงกระนั้น ทุกคนก็รู้กันดีว่าฝีเท้าของโบรลินไม่ธรรมดาเลย แถมยังถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นระดับตำนานคนหนึ่งของทีมชาติสวีเดน และก็ยังได้รับฉายา “โกลเด้น บอย” มาตั้งแต่สมัยเป็นดาวรุ่งแล้วด้วย

หลายคนอาจบอกว่าเห็นรูปนี้แล้วไม่ค่อยคุ้น เพราะก่อนที่โบรลินจะย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เขาเป็นถึงฮีโร่ของ ปาร์มา และไม่ได้อ้วนอย่างที่พวกเราจำติดตา แถมยังหล่อเหลาเอาการซะด้วย นี่แหละคือเหตุผลหนึ่งว่าทำไมจึงได้รับฉายาว่า “โกลเด้น บอย” จากสื่ออิตาลี

4. ฮูโก ซานเชซ

4

ดาวเตะชาวเม็กซิกันคนนี้ เล่นฟุตบอลให้กับ เรอัล มาดริด ในช่วงปี 1985-1992 ซึ่งตลอด 207 เกมในลา ลีกา นั้น เขากระหน่ำไปได้มากถึง 164 ประตูเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ซานเชซนั้นเป็นกองหน้าจอมถล่มประตูมาตั้งแต่เป็นดาวรุ่งอยู่ในลีกบ้านเกิดแล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาได้รับฉายาจากสื่อเป็นภาษาสเปนสำเนียงละแวกบ้านว่า “นิโน เดอ โอโร” ซึ่งแปลว่า “โกลเด้น บอย” นั่นเอง

นอกจากจะประสบความสำเร็จอย่างมากมายกับ เรอัล มาดริด แล้ว ซานเชซยังเคยเป็นอดีตฮีโร่ของ แอตเลติโก มาดริด ผู้พาทัพตราหมีคว้าแชมป์โคปา เดล เรย์ ฤดูกาล 1984-85 มาครองอีกด้วย ไม่ธรรมดาเลย

5. จิอันนี ริเวรา

5

เมื่อเลื่อนมาเห็นชื่อของริเวราแล้วหลายๆคนอาจไม่รู้จักเพราะเกิดไม่ทัน แต่เราจำเป็นต้องหยิบมาพูดถึง เพราะเขาน่าจะเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่ได้รับฉายา “โกลเด้น บอย” มาจากสื่อในอิตาลี จนทำให้มีรุ่นต่อๆมานั่นเอง

ช่วงเวลาที่ริเวราค้าแข้งอยู่นั้นคือช่วงปี 1959 จนถึง 1979 ซึ่งเขาใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเล่นให้ เอซี มิลาน จนกลายเป็นตำนานที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจนหาใครมาเปรียบเทียบไม่ได้เลย

โกลเด้น บอย รุ่นแรกคนนี้คว้าแชมป์กับมิลานได้มากถึง 12 รายการ ลงเล่นไปทั้งหมด 658 นัด ยิงได้ 164 ก่อนจะแขวนสตั๊ดไปในปี 1979

6. โรแบร์โต บาจโจ

6

แข้งตำนานเจ้าของฉายา “เทพบุตรเปียทองคำ” เริ่มต้นอาชีพกับ เวโรนา แล้วมาแจ้งเกิดกับ ฟิออเรนตินา จนทำให้ ยูเวนตุส ดึงไปอยู่ด้วยในฤดูกาล 1990 ซึ่งนั่นคือช่วงเวลาที่พีคสุดสำหรับเขาแล้ว เพราะประสบความสำเร็จเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่างแท้จริง

จากนั้น บาจโจก็ย้ายทีมเล่นไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ เอซี มิลาน, โบโลญญา, อินเตอร์ ก่อนจะเลือก เบรสชา เป็นสถานีสุดท้ายเพื่อใช้แขวนสตั๊ด ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จในด้านผลงานส่วนตัวทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่ช่วงบั้นปลายอาชีพกับทีมเล็กๆอย่าง เบรสชา

ส่วนภาพของบาจโจที่ติดตรึงอยู่ในความทรงจำแฟนบอลมากที่สุดก็น่าจะเป็นตอนยิงจุดโทษไม่เข้าในเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกจนทำให้ อิตาลี แพ้ บราซิล ไปอย่างน่าเสียดายเมื่อปี 1994 นั่นเอง

7. อเลสซานโดร เดล ปิเอโร

7

หลายคนอาจจะทราบดีอยู่แล้วว่า เดล ปิเอโร ในช่วงที่เป็นดาวรุ่งนี่แหละคือต้นเหตุที่ทำให้ โรบี บาจโจ ต้องย้ายออกจาก ยูเวนตุส ไปอยู่ เอซี มิลาน

สาเหตุหลักๆก็เพราะเจ้าหนูมหัศจรรย์ผู้ย้ายมาจากปาโดวาคนนี้กำลังจะแย่งชิงชุดแข่งหมายเลข 10 และบทบาทจอมทัพไปนั่นเอง

ถามว่าหากแข้งระดับโลกอย่างบาจโจจำเป็นต้องหลีกทางให้ใครสักคนหนึ่งแล้วล่ะก็ แสดงว่าฝีเท้าไม่ธรรมดาแน่นอน ซึ่งเจ้าเดลปิก็แสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะของตัวเองจนได้กลายเป็นคีย์แมนของทีมในเวลาอันรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ก้าวขึ้นเป็นกัปตันต่อจาก อันโตนิโอ คอนเต และถูกยกย่องเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่สุดคนหนึ่งของยูเวนตุสในภายหลัง

ไฮไลท์สำคัญของ เดล ปิเอโร ที่ได้ใจแฟนบอลมากสุดก็เห็นจะเป็นช่วงที่ยูเว่ถูกปรับตกชั้นฐานล้มบอล แต่เขากลับยอมร่วงตามทีมรักลงไปเล่นฟุตบอลในเซเรียบีอย่างเต็มใจ ก่อนจะกลับคืนสู่ลีกสูงสุดโดยใช้เวลาเพียงแค่ปีเดียว


แชร์ข่าวนี้