แผนรับมือโควิด-19 เข้าเฟส 3 บังคับผู้โดยสารใช้รถไฟฟ้าใส่หน้ากากทุกคน

222
BANGKOK, THAILAND - MARCH 14: People wear face masks on a train within the precaution against coronavirus (Covid-19) in Bangkok,Thailand on March 14, 2020. (Photo by Ich Thanomsak/Anadolu Agency via Getty Images)
แชร์ข่าวนี้

ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าดาหน้าร้องคมนาคม บังคับผู้โดยสารทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัย หากไทยเข้าสู่ระยะที่ 3 ด้าน “ศักดิ์สยาม” รับหากต้องบังคับให้ทุกคนที่ใช้รถไฟฟ้าใส่หน้ากากอนามัย ต้องมีประกาศกรมการขนส่งทางรางออกมา มั่นใจป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมซุ่มทำแผนรองรับการระบาดในเฟสที่ 3

เมื่อวันที่ 19 มี.ค.63 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กรณีที่ผู้ให้บริการรถไฟฟ้ามีความกังวลในเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 และหากในอนาคตประเทศไทยเข้าสู่ระยะที่ 3 ทางผู้ให้บริการอาจจำเป็นต้องบังคับให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าทุกคนใส่หน้ากากอนามัย เป็นมาตรการบังคับ เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส COVID-19 นั้น ในเรื่องนี้สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องมีประกาศของกรมการขนส่งทางรางออกมานั้น ซึ่งระเบียบเข้าเกณฑ์ที่กรมรางจะต้องเป็นผู้ออกประกาศ ก็จะให้กรมรางศึกษารายละเอียดเพื่อดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการสูงสุดที่จะต้องมีการป้องกันการระบาดไวรัส COVID-19 ด้วยการบังคับให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า และรถไฟทั่วไป ต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกคนนั้น มาตรการดังกล่าวจะบังคับใช้ได้ต้องมีประกาศของกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ออกมา ซึ่งขณะนี้มีรายงานข่าวระบุว่า กรมการขนส่งทางรางอยู่ระหว่างการพิจารณายกร่างประกาศไว้แล้ว

อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวจะใช้ปฏิบัติได้จริง ปริมาณหน้ากากอนามัยที่จะมีให้ประชาชนใช้ หรือหาซื้อได้ จะต้องมีเพียงพอด้วย เนื่องจากขณะนี้หน้ากากอนามัยที่ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าและเคยนำออกมาแจกจ่ายให้ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการฟรี หากตรวจพบว่าผู้ใช้บริการรายใดมีไข้ แต่ปัจจุบันปัญหาหน้ากากอนามัย ขาดตลาด แม้แต่หน่วยงานภาครัฐก็จัดหาซื้อยาก มาตรการบังคับให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าต้องใช้หน้ากากอนามัยจึงเป็นโจทย์สำคัญที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์จะต้องแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดตลาดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมด้วย

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับมาตรการการเฝ้าระวังการระบาดของ COVID-19 ของรถไฟฟ้าบีทีเอส ในวันนี้เป็นวันแรกที่ทุกสถานีของรถไฟฟ้า BTS ได้มีการติดป้ายขอความร่วมมือผู้โดยสารให้ใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งถือเป็นมาตรการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการเกิดความมั่นใจ และป้องกันการระบาดในระบบเดินรถ ทั้งในขบวนรถและในสถานี

ส่วนกรณีที่ว่าได้เตรียมแผนรองรับไว้อย่างไร กรณีภาครัฐโดยกระทรวงสาธารณสุขประกาศ การระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 นั้น ยอมรับว่าขณะนี้บีทีเอสได้เตรียมแผนการรองรับไว้แล้ว มาตรการสำคัญก็เช่น การใช้มาตรการบังคับให้ผู้ใช้บริการทุกคนต้องใช้หน้ากากอนามัย รวมทั้งการจำกัดช่องทางเข้า-ออกสถานีฯทุกแห่ง เพื่อให้สะดวกต่อการใช้เครื่องวัดอุณหภูมิเทอร์โมสแกน ตรวจวัดไข้ คัดกรองผู้เข้าใช้บริการ อย่างไรก็ตามการจะบังคับให้ผู้ใช้หน้าการอนามัยนั้นจะต้องมีประกาศทั้งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข และกรมการขนส่งทางรางออกมาบังคับ ทั้งนี้นายสุรพงษ์ยืนยันว่า แม้จะมีการประกาศการระบาดเข้าสู่เฟสที่ 3 แต่บริการรถไฟฟ้าก็ยังจำเป็นที่ต้องให้บริการอยู่ เพื่อความสะดวกของประชาชนที่ยังมีความจำเป็นต้องใช้บริการส่วนหนึ่ง

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า การป้องกันการระบาดไวรัส COVID-19 รฟม.จะยกระดับมาตรการในการดูแลความสะอาดของสถานีและขบวนรถ โดยจะมีการเพิ่มการพ่นฆ่าเชื้อในระหว่างวันให้บริการ นอกเหนือจากมาตรการทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อหลังปิดให้บริการแต่ละวัน นอกจากนี้ รฟม.อยู่ระหว่างการจัดหาเครื่องเทอร์โมสแกนเพิ่มเติมเพื่อนำมาใช้ตรวจวัดไข้ของผู้โดยสารในทุกประตูทางเข้าสู่ระบบ เพื่อใช้คัดกรองผู้โดยสารที่มีไข้จะไม่ให้เข้าสู่ระบบ เพื่อป้องกันความเสี่ยงระบาด และให้เกิดความมั่นใจต่อผู้ใช้บริการโดยรวม

อย่างไรก็ตาม รฟม.ยอมรับว่า ในขณะนี้การจัดหาเครื่องเทอร์โมสแกนค่อนข้างมีอุปสรรคเนื่องจากเครื่องขาดตลาดมาก ตัวแทนจำหน่ายระบุว่าการสั่งซื้อในปัจจุบันจะได้รับของในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า รวมทั้งราคาได้ถีบตัวสูงขึ้น จากราคาเครื่องละประมาณ 1 แสนบาท เป็นราคาเครื่องละ 4 แสนบาทเลยทีเดียว

ส่วนคำถามว่า หากการระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 รฟม.มีแผนแนวทางปฏิบัติอย่างไรนั้น ในส่วนนี้ รฟม.มีแผนและมาตรการรองรับไว้แล้ว โดย รฟม.พร้อมปฏิบัติตามมาตรการของรัฐทันที รวมถึงมาตรการสูงสุดในการให้ระบบรถไฟฟ้าหยุดให้บริการเพื่อป้องกันการระบาดในส่วนนี้ รฟม.ก็พร้อม โดยจะแจ้งให้เอกชนผู้ให้บริการระบบเดินรถ (BEM) ทราบทันทีหากมีคำสั่งออกมา

นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการการป้องกันการระบาดของไวรัส COVID-19 แอร์พอร์ตลิงก์ได้ยกระดับการคัดกรองผู้โดยสารก่อนเข้าสถานีโดยใช้เครื่องเทอร์โมสแกนในการวัดอุณหภูมิของผู้โดยสาร หากพบว่าผู้โดยสารรายใดมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 37.5 องศาฯ หรือมีไข้ ก็จะขออนุญาตผู้โดยสารไม่ให้เข้าเดินทางในระบบ ซึ่งถือเป็นมาตรการเพิ่มเติมโดยก่อนหน้านี้รถไฟฟ้าก็มีมาตรการในการทำความสะอาดขบวนรถและสถานี โดยการพ่นฆ่าเชื้อต่างๆ การเช็ดจุดสัมผัสในทุกพื้นที่ ซึ่งก็ได้ดำเนินการไปแล้วเป็นประจำ

ส่วนประเด็น หากรัฐบาลมีการประกาศว่าการระบาดเข้าสู่ในระยะที่ 3 และมีแนวทางให้ผู้ให้บริการเดินรถระบบรถไฟฟ้าปฏิบัติการงานอย่างไร รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ก็พร้อมปรับแผนปฏิบัติการทันที อย่างไรก็ตามทางนี้ปัจจุบันรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ยังเดินรถด้วยความถี่ที่สม่ำเสมอ และใช้ขบวนรถเต็มที่ทั้ง 9 ขบวน เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดภายในสถานีและขบวนรถมากเกินไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรการสูงสุดที่จะต้องมีการป้องกันการระบาดไวรัส COVID-19 ด้วยการบังคับให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า และรถไฟทั่วไป ต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกคนนั้น มาตรการดังกล่าวจะบังคับใช้ได้ต้องมีประกาศของกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ออกมา ซึ่งขณะนี้มีรายงานข่าวระบุว่า กรมการขนส่งทางรางอยู่ระหว่างการพิจารณายกร่างประกาศไว้แล้ว อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวจะใช้ปฏิบัติได้จริง ปริมาณหน้ากากอนามัยที่จะมีให้ประชาชนใช้ หรือหาซื้อได้ จะต้องมีเพียงพอด้วย เนื่องจากขณะนี้หน้ากากอนามัยที่ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้าและเคยนำออกมาแจกจ่ายให้ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการฟรี หากตรวจพบว่าผู้ใช้บริการรายใดมีไข้ แต่ปัจจุบันปัญหาหน้ากากอนามัยขาดตลาด แม้แต่หน่วยงานภาครัฐก็จัดหาซื้อยาก มาตรการบังคับให้ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าต้องใช้หน้ากากอนามัย จึงเป็นโจทย์สำคัญที่รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์จะต้องแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยขาดตลาดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมด้วย


แชร์ข่าวนี้