สมาคมผู้ผลิต-ส่งออกไข่ไก่ห่วงไข่ล้นตลาด ซ้ำรอยปีก่อนๆ ระบุหากห้ามส่งออกนานเกินไปอาจกระทบสมดุลปริมาณไข่ในประเทศ แนะเจ้าหน้าที่รัฐลุยฟาร์มตรวจสอบต้นทุน ราคาซื้อขายไข่หน้าฟาร์ม
ห่วงไข่ไก่ล้นตลาด – นายมงคล พิพัฒน์สัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ กล่าวว่า จากที่มีกระแสข่าวว่าขณะนี้ ไข่ไก่ขาดแคลน จนเริ่มแพงขึ้น และมีสัญญาณที่จะขึ้นราคาอีก ว่า ขอย้ำว่าไข่ในประเทศไทยไม่ขาดแคลน และการที่ภาครัฐมีคำสั่งห้ามส่งออกไข่แม้แทบไม่กระทบต่อปริมาณผลผลิตในประเทศ เพราะส่งออกน้อยมาก เมื่อเทียบกับผลผลิตทั้งปีแต่ที่ผ่านมาต้องส่งออกไปเพื่อรักษาสมดุลไม่ให้ไข่ล้นตลาด แต่หากห้ามส่งออกนานเกินไปก็อาจทำให้ไข่เสี่ยงที่จะล้นตลาดได้ เหมือนที่เคยเป็นมา ที่ภาครัฐต้องอุดหนุนการส่งออก จัดหาห้องเย็นเพื่อเก็บไข่ไก่ไว้ส่งออก ในปีต่อๆ มาเกษตรกรจึงปรับตัวพยายามบริหารจัดการฟาร์มให้มีผลลิตที่สมดุลกับความต้องการของตลาด ซึ่งในภาวะปกติราคาไข่ที่ออกจากฟาร์มอยู่ไข่ไก่คละอยู่ที่ฟองละ 2.80 บาทถือว่าเป็นราคาที่ทำให้เกษตรกรอยู่ได้โดยมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 2.60 บาทถึง 2.70 บาทจากที่เคยขาดทุนมาตลอดเป็นระยะเวลาหลายปี
ส่วนที่มีข่าวออกมาว่า มีการจับกุมดำเนินคดีกับแม่ค้า ใน จ.นครสวรรค์ ที่ขายไข่แพงเกินจริง โดยแม่ค้าอ้างว่า รับไข่ไก่จากฟาร์มในพื้นที่ อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ มาขาย ก็มีราคาสูงขึ้นทุกเบอร์ โดยเฉพาะไข่ไก่เบอร์ 0 รับจากหน้าฟาร์มมาขายตกแผงละ 140 บาทแล้ว ตนเอามาไข่ต่อในราคาแผงละ 155 บาท นั้น ตนเองเห็นว่าเจ้าหน้าที่รัฐควรลงพื้นที่ตรวจสอบที่ฟาร์มตามที่แม่ค้าอ้างถึงว่ามีการขายให้แพงตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ เพื่อตัดวงจรตั้งแต่ต้นทางไม่ใช่จับเฉพาะแม่ค้าที่เป็นปลายทาง
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ มีคำสั่งเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์เร่งด่วน ในเรื่องไข่ที่ขาดตลาดโดยกระทรวงจะเร่งออกประกาศห้ามการส่งออกไข่ไปนอกราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะทดลองมาตรการนี้เป็นเวลา 7 วัน เพื่อดูว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหรือไม่ หากยังไม่ดีขึ้นก็จะพิจารณาขยายเวลาอีกครั้ง
