ในที่สุด Xiaomi ได้เผยโฉม Xiaomi Mi 10 และ Xiaomi Mi 10 Pro อย่างเป็นทางการ และเป็นรุ่นแรกที่ใช้ Qualcomm Snapdragon 865 กับเทคโนโลยีที่อัดแน่นจนน่าใช้กว่าเดิม
การออกแบบหน้าจอของ Xiaomi Mi 10 และ Mi 10 Pro จะมาพร้อมกับกล้องแบบ Dot Display ที่อยู่ด้านซ้าย เมื่อใช้งานในการมองหน้าจอแล้วจะแสดงแบบไม่มีอะไรบัง แถมหน้าจอเป็นแบบ True Color สีสันจะสมจริงมากขึ้นและมี Contrast ที่สูง ระดับ 5,000,000 : 1 และมีค่า Refresh Rate 90Hz การตอบสนองไวระดับ 180Hz ขนาดหน้าจอ 6.67 นิ้วความละเอียด 2340×1080 พิกเซล
ดีไซน์ของเครื่องออกแบบให้โค้งรอบทิศและมีการออกแบบให้ลำโพงอยู่ทั้งด้านบนและล่างของเครื่อง และรองรับ Hi Res Audio ให้เสียงที่มิติมากขึ้น และด้านหลังออกแบบเรียบง่ายวางกล้องทั้ง 4 เรียงเป็นแนวตั้ง และมีให้เลือกสีดังนี้
Mi 10 Twilight Grey, Coral Green
Mi 10 Pro Alphine White, Solstice Grey
ขุมพลังของ Mi 10 มาพร้อมกับ Qualcomm Snapdragon 865 รองรับการระบายความร้อนที่ดีมากขึ้น และมีการใช้ระบบระบายความที่ดีขึ้นรองรับ 5G และ WiFi 6 ให้ความเร็วมากถึง 2.7 เท่า ความเร็วสูงสุด 9.6Gbps ติดตั้ง RAM 8GB แบบ LPDDR5 พร้อมกับความจำ 256GB แบบ UFS 3.0 และให้คะแนน Antutu มากถึง 602,660 คะแนน ถือว่าสูง
กล้องของ Xiaomi Mi 10 Pro พร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 4 ประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล f/1.69
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเป็นแบบ Tele Photo ระยะ 94 มม. พร้อมกับ OIS
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 12ล้านพิกเซล Portrait ละลายหลังรูรับแสง F2.0
- กล้องตัวที่ 4 ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 มุมมอง 117 องศา
- ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
ส่วนสเปกกล้องของ Xiaomi Mi 10 มีดังนี้
- กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล f/1.69
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มุมมอง 123 องศา หรือเป็นเลนส์ Ultra Wide
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล Depth Sensor
- กล้องตัวที่ 4 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล Marco Lense
- ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
ฟีเจอร์กล้องของ Xiaomi Mi 10 Series ที่น่าสนใจได้แก่
- กล้องหลังตัวหลักทั้ง Mi 10 และ Mi 10 Pro รองรับความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ช่วยเก็บรายละเอียดได้ดีพอสมควร
- รองรับการถ่ายวิดีโอได้ 8K
- Portrait Video ถ่ายวิดีโอแบบละลายหลังได้
- การเลือกสีในการถ่ายวิดีโอได้เมื่อกล้องจับสีจะโฟกัสแต่สีนั้น
- ShootSteady เพิ่มความนิ่งในการถ่ายวิดีโอได้
- Pro Mode สามารถปรับในการตั้งค่ากล้องได้หลากหลายมากกว่าเดิม และรองรับการถ่ายวิดีโอแล้วปรับทำให้ได้วิดีโอที่หลากหลายมากขึ้น
- Hardware Flicker Sensor จะทำหน้าที่ปรับปรุงและเกลี่ยสีภาพให้สวยงามมากขึ้น
นอกจากลำโพงคู่ที่ได้บอกไปแล้ว ยังให้ลำโพงในแบบ 12 mm x 16 mm ทั้งบนและล่าง ทำให้เสียงออกมาดีมากขึ้น
สำหรับระบบการชาร์จไฟ Xiaomi Mi 10 Pro จะรองรับกำลังสูงสุด 50W ในแบบสายถือว่าทำได้เร็ว แต่รุ่น Mi 10 รองรับกำลังชาร์จไฟ 30W แต่ทั้งคู่รองรับ Wireless Charge กำลังสูงสุด 30W ทำให้ชาร์จไฟเต็มได้เร็วมากขึ้น และนอกจากนี้ยังติดตั้ง Reverse Wireless Charge มาให้
แต่ขนาดแบตเตอรี่ Mi 10 จะมาพร้อมกับขนาด 4780 mAh และ Mi 10 Pro ให้แบตเตอรี่ขนาด 4500 mAh และที่ชาร์จนั้น Mi 10 Pro ให้ขนาด 65W ภายในกล่อง ถือว่าเอาใจผู้บริโภคที่ต้องการของแรงได้อย่างมาก
ส่วนราคาของ Xiaomi MI 10 และ Mi 10 Pro มีดังนี้
- Xiaomi Mi 10 ที่มาพร้อมกับหน้าจอ 6.67 นิ้ว Snapdragon 865 และรองรับ 5G กับแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น ถึง 4780 mAh ในราคาเริ่มต้น 799 ยูโร หรือประมาณ 28,000 บาท (RAM 8GB / ความจำในตัว 128GB)
- Xiaomi Mi 10 Pro ที่มาพร้อมกับกล้องหลังที่เพิ่มความละเอียดมากขึ้น พร้อมกับกำลังชาร์จไฟ 50W และให้ที่ชาร์จกำลัง 65W ในราคาเริ่มต้น 999 ยูโร หรือประมาณ 35,000 บาท (RAM 8GB / ความจำในตัว 256GB)
ทั้งคู่เริ่มวางจำหน่ายประมาณต้นเดือนเมษายนถึงจะถึงนี้ และบางประเทศอาจจะจำหน่ายก่อน ส่วนประเทศหากมีความคืบหน้าจนำมาบอกเล่ากันต่อไป
