โฆษก กทม. เผยเตรียมสั่งปิดทุกร้านค้า เที่ยงคืน-ตี 5 พร้อมปิดสวนสาธารณะถึง 30 เม.ย.

222
แชร์ข่าวนี้

วันนี้ (1 เม.ย.) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 7/2563 ซึ่งมีการประชุมกันในวันนี้และได้ผลสรุปว่า กรุงเทพมหานครจะออกประกาศฉบับที่ 5 เรื่องการควบคุมเวลาเปิดและปิดสถานที่โดยแบ่งสถานที่ เป็น 2 แบบ ได้แก่

1. สถานที่ที่อนุญาตให้เปิดตั้งแต่เวลา 05:01-24:00 น. คือร้านสะดวกซื้อหรือลักษณะเดียวกันกับร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น Family Mart หรือร้านโชห่วย ทุกร้านขอให้กำหนดเวลาเปิดตั้งแต่เวลา 05:01 น. ถึง 24:00 น. ทั้งในห้างและนอกห้างรวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ ด้วย

ส่วนร้านอาหารและเครื่องดื่มที่อยู่ในคูหา รถเข็นและแผงลอย จะมีการกำหนดเวลาเปิดตั้งแต่ 05:01 น. ถึง 24:00 น. ร้านอาหารทุกประเภทไม่ว่าจะขายอาหารอย่างเดียวหรือขายเครื่องดื่มอย่างเดียวหรือขายทั้ง 2 อย่าง ร้านที่อยู่ในคูหารถเข็น แผงลอยขอให้ทุกร้านเหล่านี้ ให้บริการแค่ 05:01 น. ถึง 24:00 น. ทั้ง 2 ส่วนคือ ต้องการจำกัดเวลาเปิดเพื่อให้ร้านที่เปิด 24 ชั่วโมงได้ทำความสะอาดให้ถูกสุขลักษณะอย่างเคร่งครัด

2. สถานที่ที่ขอให้ปิดเลยอีกหนึ่งสถานที่ คือ สวนสาธารณะทั้งของรัฐและเอกชน ที่ผ่านมายังอนุโลมให้มีการเปิดสวนสาธารณะ แต่ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นเพราะมีการใช้สวนสาธารณะเป็นการรวมพล นั่งกินข้าว หรือทำกิจกรรมออกกำลังกายใกล้ชิดกัน ดังนั้น กทม. จึงขอให้ปิดสถานที่เหล่านี้ไว้ก่อน ทั้งสวนสาธารณะที่ดูแลโดยกรุงเทพฯ หรือสวนสาธารณะที่ดูแลโดยเอกชน เช่น ส่วนชุมชน สวนในหมู่บ้าน กรุงเทพฯ จะประกาศให้ปิดส่วนนี้ก่อน โดยประกาศทั้งหมดจะมีผลในวันพรุ่งนี้ 2 เม.ย. – 30 เม.ย.

ทั้งนี้ กทม. เห็นว่านโยบายต่างๆ ที่ออกมาอาจจะทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการดำรงชีวิต แต่ต้องการให้ประชาชนอยู่บ้านให้มากที่สุด และกทม. ร่วมกับรัฐบาลพร้อมที่จะเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดสถานที่ต่างๆ ให้เร็วที่สุด

กทม.จะให้คำมั่นสัญญาว่า ทุกสถานที่ที่ปิดจะมีการประเมินตลอดว่าตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และหลักการแพทย์นั้น สถานที่เหล่านี้สามารถเปิดได้แล้วและมีสถิติผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ลดลง จะพิจารณาเปิดให้เร็วที่สุดและขอความร่วมมือให้ทุกคนเข้าใจและร่วมมือดำเนินการตามมาตรการของกรุงเทพมหานครด้วย

ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวยืนยันเพิ่มเติมว่า กทม.จะไม่ประกาศเคอร์ฟิว เพราะการประกาศเคอร์ฟิวไม่ใช่อำนาจของ กทม. แต่เป็นอำนาจของ ศบค. ที่จะดำเนินการตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งตามต่างจังหวัดที่มีการประกาศออกมานั้น ไม่ได้เป็นการประกาศเคอร์ฟิว แต่เป็นการขอความร่วมมือให้ประชาชนงดออกจากบ้านหรือออกจากบ้านให้น้อยที่สุด

ขณะที่ กทม.ยังได้รับการประสานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในการตั้งด่านตรวจคัดกรองทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ แต่จะเพิ่มอีกกี่จุดนั้น บช.น.จะเป็นผู้ให้รายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม กทม. ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง สั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวอย่างเคร่งครัด ลดการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีการรวมตัวของประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีโอกาสเป็นกลุ่มเสี่ยง ขอให้อยู่ที่บ้าน ส่วนกลุ่มที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มที่อยู่ในวัยทำงาน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเชื้อแล้วแสดงอาการน้อยมาก หรือไม่แสดงอาการเลย

ซึ่งนโยบายที่จะลดการทำงาน ให้ทำงานที่บ้าน หรือให้หยุดงาน อาจจะต้องเข้มข้นขึ้น เพื่อลดโอกาสที่กลุ่มคนดังกล่าวจะแพร่กระจายเชื้อโรคต่อ และหากมีความจำเป็นหรือสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น การเคลื่อนย้ายคน หรือการเคลื่อนย้ายในรูปแบบต่างๆ อาจจะต้องเข้มงวดมากขึ้นด้วยเช่นกัน


แชร์ข่าวนี้