คมนาคม กำชับขนส่งสาธารณะ เพิ่มขบวนรถช่วงชั่วโมงเร่งด่วนก่อน “เคอร์ฟิว”

272
แชร์ข่าวนี้

“ศักดิ์สยาม” สั่งระบบขนส่งสาธารณะ MRT-BTS-แอร์พอร์ตลิงก์-ขสมก. เพิ่มขบวนรถ-ปรับความถี่ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน ช่วงชั่วโมงเร่งด่วนก่อน “เคอร์ฟิว” พร้อมเน้นย้ำมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงคมนาคม ดำเนินการเพิ่มขบวนรถและปรับความถี่ เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางให้บริการแก่ประชาชนในช่วงก่อนเคอร์ฟิวในเวลา 22.00 น. และก่อนเริ่มวันใหม่ เวลา 04.00 น. ขณะเดียวกันได้สั่ง การให้ระบบขนส่งสาธารณะเข้มงวดในส่วนของมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19

ขณะที่ บริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ MRT นั้นในส่วนของสายสีน้ำเงิน ปรับความถี่เดินรถเป็น 3.50 นาทีต่อขบวน ในช่วงเวลา 17.30-21.30 น. พร้อมทั้งเพิ่มการบริการช่วงชั่วโมงเร่งด่วน 3 เที่ยว รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้ถึง 450 คน, สายสีม่วง ปรับความถี่เดินรถรถเป็น 4.30 นาทีต่อขบวน ในช่วงเวลา 18.00-21.30 น. และเพิ่มการบริการช่วงชั่วโมงเร่งด่วน 9 เที่ยว รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้ถึง 1,350 คน

สำหรับ บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ได้เพิ่มขบวนรถเสริม 2 ขบวน และปรับความถี่เดินรถสูงสุดเป็น 7.30 นาทีต่อขบวน ในช่วงเวลา 19.00-21.30 น. ขณะเดียวกัน เพิ่มการบริการช่วงชั่วโมงเร่งด่วน 10 เที่ยว รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้ถึง 1,300 คน

ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ได้เพิ่มการบริการช่วงชั่วโมงเร่งด่วน 20.00-21.30 น. เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในช่วงเคอร์ฟิว สำหรับสายสุขุมวิท ได้มีการเพิ่มการบริการช่วงชั่วโมงเร่งด่วน 15 เที่ยว รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 3,720 คน, สายสีลม เพิ่มการบริการช่วงชั่วโมงเร่งด่วน 6 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,488 คน โดยบริษัทเน้นย้ำนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ รถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นั้น รถคันแรกออกจากต้นทางเวลา 05.00 น. ปรับความถี่ปล่อยรถห่างกันไม่เกิน 5-10 นาทีต่อคัน ในส่วนของรถคันสุดท้าย ออกจากต้นทางเวลา 18.00-19.00 น. และรถออกจากปลายทางเวลา 20.00 น. ปรับความถี่เดินรถ 3 คันสุดท้าย ห่างกัน 5-10 นาทีต่อคัน

อย่างไรก็ตาม ขสมก.เพิ่มเที่ยวรถบริการช่วงชั่วโมงเร่งด่วน 2,453 เที่ยว (รับได้ 31 คนต่อเที่ยว) รองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้นได้ถึง 74,476 คน อย่างไรก็ตาม การคำนวณการรองรับผู้โดยสารนั้น ให้เป็นไปตามหลักการเว้นระยะห่างทางสังคม


แชร์ข่าวนี้