“จุรินทร์” ส่งทนายดำเนินคดีอัจฉริยะ ปมไลฟ์สดเปิดโปงขบวนการอมหน้ากาก

295
แชร์ข่าวนี้

รมว.พาณิชย์ ส่งทีมทนายดำเนินคดี “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ฐานใส่ร้ายเรื่องหน้ากากอนามัย นำความเท็จผ่านระบบคอมพิวเตอร์ รวมรวดเดียว 5 กระทง ยันไม่มีเคลียร์ เรื่องนี้ถึงศาลแน่นอน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 เม.ย.63 ที่ บก.ปอท. นายสุริยะ อรุณรุ่ง พร้อมทีมทนายได้รับมอบอำนาจจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงพาณิชย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษก บก.ปอท. ดำเนินคดี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หลังไลฟ์เฟซบุ๊กพาดพิงนายจุรินทร์ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดเรื่องหน้ากากอนามัย ข้อหาการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (2) โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ด้วยการกระจายภาพ กระจายเสียง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และ 328 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายสุริยะ เผยว่า นายอัจฉริยะ มีพฤติกรรมในการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ผ่านเฟซบุ๊ก ของชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และเผยแพร่ข้อความดังกล่าวให้แพร่หลายสู่ประชาชน เป็นข้อความอันเป็นเท็จ บิดเบือน ยุยง ปลุกปั่น ใส่ความ ฉวยโอกาส สร้างกระแสด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จ โดยมีเจตนาทำลายความน่าเชื่อถือของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ อันเป็นการนำเอาความเท็จมาใส่ความนายจุรินทร์ต่อสาธารณะ ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งส่วนตัวและการบริหารราชการแผ่นดิน การกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา

“ทีมกฎหมายได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะ รวมทั้งสิ้น 5 กรรม ต่างวาระกัน เพราะนายอัจฉริยะได้ใส่ความนายจุรินทร์ด้วยการไลฟ์สดใส่ร้ายนายจุรินทร์ถึง 5 ครั้ง วันที่ 11 มี.ค. 16 มี.ค. 20 มี.ค. 29 มี.ค. และวันที่ 1 เม.ย.63 ท่านจุรินทร์ชี้แจงได้ทุกประเด็นที่นายอัจฉริยะกล่าวหาและใส่ร้ายป้ายสี ตนทำงานกับท่านมา 30 ปี ท่านดำเนินคดีใครไม่มีเคลียร์ เพราะในเมื่อสู้กันเรื่องข้อเท็จจริง ศาลเป็นคนกลางตัดสินที่ยุติธรรมที่สุด จึงยืนยันว่าไม่มีการเคลียร์กับนายอัจฉริยะแน่นอน” นายสุริยะ กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ เผยว่า เบื้องต้นรับแจ้งความไว้ก่อน หลังจากนี้ให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่ผู้ร้องนำมามอบให้ว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง หากเข้าข่ายความผิดจะออกหมายเรียกนายอัจฉริยะมาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป


แชร์ข่าวนี้