ลุยไฟหาตลาดส่งออกไก่ไทย

211
แชร์ข่าวนี้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ สมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) บริษัท สหฟาร์ม จำกัด บริษัท คาร์กิลล์ และบริษัท จีเอฟพีที ว่า เป็นการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์การผลิตและการส่งออก กำหนดแนวทางการบริหารการตลาด และการผลักดันการส่งออกสินค้าไก่ของไทย เพราะกระทรวงฯต้องดูแลการบริโภคในประเทศให้เพียงพอ และสนับสนุนการส่งออกให้สอดคล้องกับการผลิต เพื่อร่วมกันพลิกวิกฤติโควิด-19 เป็นโอกาส ในการทำรายได้ให้กับประเทศให้ได้มากที่สุด จึงต้องมาหารือร่วมกัน และพิจารณาดูว่ามีแนวทางในการดำเนินการอย่างไรต่อไป

สำหรับการส่งออก ภาคเอกชนเห็นว่าสามารถผลักดันให้มีเพิ่มขึ้นได้ โดยแบ่งการทำตลาดออกเป็น 2 ส่วน คือ รักษาตลาดเดิม 8 ประเทศที่นำเข้าไก่จากไทยอยู่แล้ว ได้แก่ ญี่ปุ่น อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ฮ่องกง ไอร์แลนด์ แคนาดา เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และขยายตลาดใหม่ 19 ประเทศ เป็นตลาดที่ไทยยังมีส่วนแบ่งตลาดต่ำ เพราะนำเข้าจากคู่แข่งของไทยมากกว่า ได้แก่ สหรัฐฯ เบลเยียม เดนมาร์ก ออสเตรีย สวีเดน อังกฤษ เยอรมนี ฮ่องกง ซาอุดีอาระเบีย จีน ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เม็กซิโก อิรัก แองโกลา แอฟริกาใต้ ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน

“ภาคเอกชนขอให้ผมเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ระหว่างไทย-สหภาพยุโรป (อียู) และอังกฤษโดยเร็ว และขอให้เร่งเจรจากับอียูและอังกฤษ ภายหลังจากที่อังกฤษออกจากอียูแล้ว เพื่อเพิ่มโควตานำเข้าไก่จากไทยให้ไม่น้อยกว่าเดิมคือไม่ต่ำกว่าปีละ 280,000 ตัน หรือให้ได้เพิ่มขึ้นเป็นปีละ 320,000 ตัน รวมทั้งให้เจรจาลดภาษีนำเข้านอกโควตาของอังกฤษจากกว่าตันละ 1,000 ยูโร ลงมาอีก ส่วนญี่ปุ่น ต้องการให้ช่วยเปิดตลาดเพิ่มเติม ส่วนตลาดอื่นๆ เช่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ ซาอุดีอาระเบีย ไต้หวัน ขอให้ทูตพาณิชย์เร่งเจรจาเปิดตลาดให้ด้วย

ทั้งนี้ หากทำตามแผนที่วางไว้ได้ ไทยจะมีรายได้จากการส่งออกไก่สดแช่แข็งและแปรรูปเพิ่มขึ้นอีก 33,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่ส่งออกได้มูลค่า 109,000 ล้านบาท รวมทำเป็นรายได้เข้าประเทศ 140,000 ล้านบาท โดยในแต่ละปี ไทยผลิตไก่เนื้อได้ 2.86 ล้านตัน เป็นผู้ผลิตไก่เนื้ออันดับที่ 8 ของโลก แต่ส่งออกได้เป็นลำดับที่ 4 ของโลก


แชร์ข่าวนี้