เจ้าหน้าที่เวรเปลดอดพบตำรวจ ปฏิเสธไม่ได้แอบกดเงิน 5,000 ป้าผู้ป่วยโรคไต

215
แชร์ข่าวนี้

(24 เม.ย.63)  ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.สุนันท์  อายุ 54 ปี ชาว ต.ศรีภูมิ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์  ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์  ว่าถูกขโมยกดเงินที่ลูกสาวส่งมาให้หายไป 5,000 บาท  เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากไปฟอกไตที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เนื่องจากป้าสุนันท์ เดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นคนพิการ  ส่วนสามีก็กดเงินไม่เป็น จึงวานให้เจ้าหน้าที่เปลของโรงพยาบาลช่วยไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ที่ตั้งอยู่หน้าโรงพยาบาลให้ แต่เจ้าหน้าที่เปลคนดังกล่าวกลับเดินมาบอกว่า เงินในบัญชีมีแค่ 1,000 บาท  ทั้งที่ลูกสาวยืนยันว่าโอนมาให้ 5,800 บาท  บวกกับเงินที่เหลือในบัญชีอีก 287 บาท ก็น่าจะมีเงินในบัญชี 6,087 บาท จึงอยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เข้าไปสอบถาม ร.ต.อ.อนุเปรม ทุมนานอก รองสารวัตร (สอบสวน)   สภ.เมืองบุรีรัมย์  เจ้าของคดี ก็ให้ข้อมูลว่า ผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ที่ผ่านมา และหลังจากป้าผู้เสียหายมาแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่เปลที่ถูกกล่าวหาก็ได้เดินทางเข้ามาพบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้แอบกดเอาเงินของป้าตามที่ถูกกล่าวหา  อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ได้ทำหนังสือประสานไปยังธนาคารทั้ง 2 แห่งที่มีตู้ เอทีเอ็ม ตั้งอยู่หน้าโรงพยาบาล เพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานว่าใครเป็นคนใช้เอทีเอ็ม กดถอนเงินในวันดังกล่าว ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะเกินวันที่ 30 เม.ย.นี้ น่าจะได้ภาพวงจรปิด  

แต่จากเอกสารสเตทเม้นที่ทางผู้เสียหายไปติดต่อขอจากทางธนาคารมายื่นเบื้องต้น  พบว่ามีการโอนเงินเข้ามาในบัญชีจำนวน 5,800 บาท ในวันที่ 17 เม.ย.  และมีการถอนเงินออก 2 ครั้ง ครั้งแรก 5,000 บาท ครั้งที่ 2 จำนวน 1,000 จริง  แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนถอน เนื่องจากเป็นการถอนผ่านบัตร เอทีเอ็ม ดังนั้นก็ต้องรอภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานยืนยัน 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ไปติดต่อสอบถามทางโรงพยาบาล เพื่อถามรายละเอียดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว  แต่ทางโรงพยาบาลไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูล จึงได้สอบถามเพื่อนร่วมงานที่ทำงานในโรงพยาบาลเดียวกัน ก็บอกว่าเจ้าหน้าที่เปลคนที่ถูกกล่าวหาพึ่งเข้ามาทำงานได้ประมาณ 2 – 3 เดือน  แต่ในวันเกิดเหตุไม่ทราบเรื่อง พึ่งทราบจากข่าวจึงไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้ แต่วันนี้พนักงานเปลคนดังกล่าวไม่ได้มาทำงานเพราะเป็นวันหยุด แต่ก็คาดว่าพรุ่งนี้น่าจะมาทำงานตามปกติ          

ขอขอบคุณ

แหล่งที่มา : sanook


แชร์ข่าวนี้