โผล่มอบตัวแล้ว! หนุ่มใช้หมวกน็อกฟาด ลุงแท็กซี่วัย 75 เลือดอาบหน้า คว้าไขควงทำร้ายซ้ำ

215
แชร์ข่าวนี้

วันที่ 27 พ.ค. จากกรณี สมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ บัญชา เตชนราฤทธิ์ โพสต์คลิปและภาพ พร้อมระบุข้อความว่า 13.50 น. เกิดอุบัติเหตุ บนถนนกัลปพฤกษ์ 4แยกไฟแดง ขาเข้าถนนบางแค บางบอน เขตพื้นที่รับผิดชอบ สน.บางขุนเทียน รถแท็กซี่ เฉี่ยวชนกับ รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 110 i สีแดง-ขาว ป้ายทะเบียน873 (ป้ายเหลือง) ไม่ทราบ ตัวอักษร ของทะเบียนรถ หลังเกิดเหตุเฉี่ยวชน ทางด้านคนขี่รถจักรยานยนต์ ลงมาทำร้ายร่างกาย คุณลุงคนขับแท็กซี่ โดยได้มีการ ใช้หมวกกันน็อกฟาดทำร้ายร่างกายตามใบหน้าและร่างกาย ของคุณลุงคนขับแท็กซี่ และ ยังได้ใช้ไขควงทำร้ายร่างกาย จากนั้นคนขี่รถจักรยานยนต์ก็ได้ทำการขี่รถหลบหนี

ล่าสุดเรื่องนี้ เฟซบุ๊กชื่อ บัญชา เตชนราฤทธิ์ ได้โพสต์อัพเดตอาการของลุง ขับแท๊กซี่ ระบุว่า เข้า เคส x-ray สมอง หมอบอก ไม่เป็นอะไรครับ (แต่ยังไม่ชัวร์ หมอบอกไม่คอนเฟิร์มครับ)

 ลุงแท็กซี่เลือดอาบ

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีนี้ว่า ได้รับรายงานจาก สน.เพชรเกษม ว่า วันนี้เวลาประมาณ 14.30 น. มีชาย อายุ 75 ปี ประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ เดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ว่าขณะที่ตนกำลังขับรถแท็กซี่ มายังบริเวณที่เกิดเหตุ ได้ขับรถเฉี่ยวชนกับจักรยานยนต์คู่กรณี และจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้เสียหลักไปชนกับรถกระบะอีกคันหนึ่ง ได้รับความเสียหาย จากนั้นได้ขับออกมาจากบริเวณดังกล่าว และถูกผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทำร้ายร่างกาย โดยใช้หมวกกันน็อกฟาดและใช้ไขควง จากนั้นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

จากนั้น พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ส่งตัวผู้รับบาดเจ็บไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลแล้ว ต่อมาในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 16.00 น. มีชายอายุ 32 ปี เดินทางเข้ามาแสดงตนต่อ พนักงานสอบสวน ว่าตนเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดและไปตรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุ และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป

 ลุงแท็กซี่เลือดอาบ

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ คดีทำร้ายร่างกายและคดีทางจราจร ซึ่งในส่วนของคดีทำร้ายร่างกายนั้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะทำการแจ้งข้อหาผู้กระทำความผิดในความผิดฐาน “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” และในส่วนของคดีทางจารจร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กล้องวงจรปิดและพยานบุคคล เป็นต้น เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางคดีและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ขอฝากเตือนไปยังผู้ใช้รถใช้ถนน อย่าใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา เมื่อเกิดเหตุควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าใช้กำลังตัดสิน เพราะไม่ว่าการกระทำใดการกระทำหนึ่งอาจส่งผลเสียแก่ตนหรือผู้อื่นได้ โดยนำหลักฐานด้วยการถ่ายภาพทะเบียนรถ ตำหนิรูปประพรรณ สี ยี่ห้อ รุ่น หรือหลักฐานอื่น ๆ มาแจ้งที่สถานีตำรวจพื้นที่รับผิดชอบ หรือแจ้งสายด่วน 191 ได้ ตลอด 24 ชม.

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเฟซบุ๊ก บัญชา เตชนราฤทธิ์

cr. ข่าวสด


แชร์ข่าวนี้