นายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการท่องเที่ยวขอวิงวอนรัฐบาลเริ่มพิจารณาเปิดเมือง เปิดประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวประเทศไทยในเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งการเริ่มขยับในเดือน ก.ค.จะเป็นโอกาสของประเทศไทย เพราะเป็นช่วงที่ทั่วโลกไม่พร้อม แต่ประเทศไทยพร้อม เพราะหากจะรอไปนานกว่านี้จะช้าไป ขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศก็จะไม่ไหวแล้ว ต้องขอบคุณรัฐบาลไทยที่จัดการโควิด-19 ได้ดี เพราะถ้าไม่ดีเราเปิดประเทศเขาก็ไม่มา อย่างไรก็ตามต้องเลือกเปิดและเริ่มต้นจับคู่กับประเทศที่ควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้แล้ว เช่น จีน ฮ่องกง มาเก๊า เกาหลีใต้ ไต้หวัน เวียดนาม ลาว เป็นต้น
“การเปิดท่องเที่ยวแบบนี้ต้องทำ 2 ฝั่ง ไม่ใช่เราพร้อมรับฝ่ายเดียว คนจะมาต้องให้เขารับรู้ด้วย ซึ่งในตอนเริ่มต้นจะยังไม่มีการเดินทางผ่านมาเป็นกลุ่มบริษัททัวร์ คงจะมีแต่นักธุรกิจ หรือนักท่องเที่ยวแบบเดินทางด้วยตัวเอง ที่สำคัญขอว่าจะต้องไม่มีการกักตัว 14 วัน ไม่เช่นนั้นไม่มีใครมา แต่ต้องวางหลักเกณฑ์ให้มีใบรับรองแพทย์ที่ตรวจโควิด-19 มาแล้ว ไม่ใช่แค่ใบรับรองแพทย์ธรรมดา”
ทั้งนี้ ในภาวะปกติมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเดือนละ 3 ล้านคน ถ้าเปิดช่วงเดือน ก.ค.เป็นต้นไป หากมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเดือนละ 100,000 คนก็สร้างรายได้เข้าประเทศ 5,000 ล้านบาท ถ้าเข้ามา 1 ล้านคน ก็สร้างรายได้ 50,000 ล้านบาท ซึ่งการเริ่มขยับเปิดในเดือน ก.ค.นี้ จะทำให้ภาคเอกชนท่องเที่ยวมีเวลาเตรียมตัวและเริ่มต้นไปโรดโชว์ในต่างประเทศได้ในเดือน ส.ค.-ก.ย. เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เป็นกรุ๊ปทัวร์กลับมาได้ในเดือน ต.ค.
นอกจากนั้น การตัดสินใจเปิดประเทศเดือน ก.ค.จะทำให้เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติที่รัฐบาลปรับลดลงจาก 40 ล้านคน มาอยู่ที่ 14-16 ล้านคนก็เป็นไปได้ จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 6 ล้านกว่าคนที่เข้ามาตอนต้นปี ส่วนนักท่องเที่ยวจีนตลอดปีนี้อาจจะได้ 4 ล้านคน จากที่มีอยู่แล้ว 1.2 ล้านคนที่เข้ามาตอนต้นปี
โดยทั้งหมดนี้จะทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
cr. ไทยรัฐ
