คมนาคม เสนอนายกฯ ตั้ง 13 มือดี เดินหน้าสางหนี้-ฟื้นฟูกิจการ ขสมก.

242
แชร์ข่าวนี้

ก.คมนาคม จ่อเสนอนายกรัฐมนตรีตั้ง 13 มือดีมาเข็นแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.โดยที่ คมนาคม-คลัง จะผนึกกำลังเร่งสางหนี้ 127,000 ล้านบาท เพื่อดัน ขสมก.หลุดพ้นจากหลุมดำ

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับแนวทางการฟื้นฟูกิจการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ซึ่งล่าสุดกรอบการดำเนินการได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ หรือ คนร.ไปแล้ว โดยล่าสุดกระทรวงคมนาคมได้เตรียมเสนอให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณารายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ฉบับปรับปรุงใหม่) โดยคณะกรรมการดังกล่าว มีกรรมการร่วม 13 คน โดยจะเสนอชื่อให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน

โดยยังมีรายชื่อของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง, นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม, ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ, ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.), ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ, เลขาธิการ สภาพัฒน์, อธิบดีกรมการขนส่งทางบก, ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข., ผู้อำนวยการ ขสมก. และรองผู้อำนวยการ ขสมก.ฝ่ายบริหาร ร่วมกับเป็นกรรมการ

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะมีภารกิจ กลั่นกรองงานตามแผนฟื้นฟูกิจการฉบับใหม่ ตามที่ คนร.ตั้งข้อสังเกต และแนวทางที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย, พิจารณาปรับปรุงแผนให้มีความชัดเจน ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ, เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลตามที่จำเป็น, ปฏิบัติตามภารกิจที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย และสรุปแนวทางฟื้นฟูกิจการเพื่อเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบทบาทของคณะกรรมการชุดดังกล่าว จะเป็นไปตามแนวทางที่กระทรวงคมนาคม ต้องการเร่งรัดแผนฟื้นฟู ขสมก. ให้มีความคืบหน้าโดยเร็วและยังมีรายละเอียดที่ต้องดำเนินการต่อไปอีกในหลายประเด็น เช่นการจับเช่ารถเมล์ EV 2,511 คัน การกำหนดค่าโดยสารแบบตั๋ววัน 30 บาทซึ่งนอกจากคณะกรรมการที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน

นอกจากจะทำรายละเอียดเพื่อเตรียมเสนอ ครม.แล้ว จะต้องประสานความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงการคลัง ตามที่มีภารกิจที่ต้องรับไปดำเนินการต่อประเด็นที่ต้องมีการแก้ไขปัญหาหนี้และภาระขาดทุนสะสมของ ขสมก. กว่า 127,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูง และต้องได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง รวมถึง สภาพัฒน์ โดยภาระหนี้ที่มีในอดีตนั้น จะมีลักษณะที่ต้องทยอยชำระเป็นงวดๆ ทั้งในส่วนของหนี้พันธบัตรและหนี้เงินกู้ ที่ครบกำหนดรวมทั้งในอนาคตเมื่อแผนฟื้นฟูผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีไปแล้ว ก็จะมีภารกิจในการติดตามความคืบหน้าของงาน ตามแนวทางการฟื้นฟู ในระยะเวลาช่วงเปลี่ยนผ่าน 2-3 ปีข้างหน้า เช่น ภารกิจที่ ขสมก.จะมีการทยอยรับมอบรถเมล์ EVใหม่ 2,511 คัน ไปจนครบในเดือนกันยายน 2565

cr. ไทยรัฐ


แชร์ข่าวนี้