เปิ้ล หัทยา เผยไม่คิดว่า ตั้ว ศรัณยู จะไม่ได้กลับบ้าน เล่านาทีจากไปอย่างสงบ

199
แชร์ข่าวนี้

เปิ้ล หัทยา แถลงข่าวเปิดใจ นาทีสุดท้าย ชี้ไม่ได้บอกใครเลยแม้แต่พี่ชาย คิดว่าจะสู้โรคไหว ไม่คิดว่าจะไม่ได้กลับบ้านอีก

ที่ ศาลาเศรษฐี วัดนาคปรก ซ.เทอดไท 49 ภาษีเจริญ ในพิธีบำเพ็ญกุศล “ตั้ว” ศรัณยู วงษ์กระจ่าง นักแสดงและผู้กำกับชื่อดัง ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย ในวัย 59 ปี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา

เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง ภรรยาได้แถลงถึงสาเหตุการเสียชีวิต และวาระสุดท้าย ว่า เป็นความตั้งใจของ พี่ตั้ว ที่อยากดูแลสุขภาพตัวเองลำพัง จึงไม่ได้บอกใคร อาการที่เจ็บหนักครั้งแรกที่ตรวจ มีกระดูกข้อที่สามของกระดูกสันหลังยุบลงไป ขอบคุณทีมคุณหมอ รพ.จุฬา ที่ไปพบว่า กระดูกที่ทรุดลงมา มาจากอย่างอื่น โดยเกือบจะผ่าตัดแต่คุณหมอดูแล้วว่ากระดูกส่วนอื่นยังแข็งแรงอยู่ จึงตรวจต่อ

จากนั้นจึงพบลิ่มเลือด และหาสาเหตุต่อพร้อมเรียกไปคุยว่าเป็นเพราะอะไร ที่ผ่านมา พี่ตั้ว มีโรคไวรัสตับอักเสบบี และดูแลตัวเองมาตลอด แต่ 2 ปีที่ผ่านมาไม่ได้เช็กร่างกาย พบว่า สิ่งที่อยู่ในตับโตขึ้น และพบว่าเป็นมะเร็ง ตัวพี่ตั้วเองก็สงสัยว่าเกิดจากอะไรเพราะตรวจร่างกายมาตลอด แต่อยู่ๆ มะเร็งได้ลามจากกระดูกข้อที่ 3 มาที่ T11 และ ที่ปอด

งานศพ ตั้ว ศรัณยู

ตอนเข้า รพ.จุฬา คุณหมอบอกว่ามะเร็งน่าจะอยู่ระยะที่ 3 ให้ยาคุมตับ สามารถทำงานต่อได้เมื่อเดือน ก.พ. สามารถไปกำกับละครที่ค้างอยู่ จากนั้น ปวดสะบักปวดขา และพบว่า กระดูกทรุดเพิ่ม ทำการฉายแสง จากนั้นทำให้ไม่อยากทานอาหาร แคลเซียมสูงจนทำลายระบบต่างๆ ไม่อยากกิน ไม่อยากนอน

https://www.facebook.com/khaosod/videos/261446164964220/?t=2

ตอนแรกเดินได้ช้าๆ จากนั้นก็แข็งแรงขึ้นออกกองได้ แต่จากนั้นปวดสะบักมากขึ้น ต้องฉายแสงมากขึ้น ซึ่งตอนนั้นก็มีวิกฤติโควิด แต่ก็ไม่ได้บอกใครเพราะทุกคนเครียดเรื่องโควิดอยู่แล้ว สไตล์พี่ตั้วก็คิดว่าดูแลตัวเองได้ ไม่อยากรบกวนใคร

ตอนที่อาการไม่ค่อยดี พี่ตั้วตื่นมาจะเริ่มพูดช้าลง คิดช้าลง แต่จะถามหาว่า กองถ่ายมาพร้อมหรือยัง วันนี้กี่คัท กล้องกี่ตัว จนต้องบอกว่า เราอยู่บ้านกันนะ จากนั้นก็เริ่มทานอาหารไม่ได้มากขึ้น ทำให้เข้า รพ.เมื่อสัปดาห์ก่อนเมื่อวันพุธ มีอาการติดเชื้อที่ปอด แคลเซียมสูง

“คิดว่ามันเร็ว และคิดว่าจะได้กลับบ้าน คิดว่ามาแค่เปลี่ยนยา รักษาอาการให้ดีขึ้น หมอเริ่มบอกว่า พี่ตั้ว อยากเจอใครมั้ย เราก็เริ่มเอะใจ จึงบอกพี่เอก ซึ่งก็เพิ่งทราบข่าวเช่นกัน ที่ผ่านมากับพี่ตั้ว เราคุยกันเรื่อยๆ เรื่องละคร เรื่องลูก วางแผนชีวิตยังไง บอกให้เปิ้ลทำความฝันให้เป็นจริงอย่าท้อ จนเมื่อมาอยู่ รพ. ก็ยังพูด ว่า ต้องทำสิ่งที่เราอยากทำให้เป็นความจริงให้ได้ ที่ผ่านมาเราต้องเข้มแข็งตั้งแต่คนถามแล้วว่า พี่ตั้วเป็นยังไง “

ด้าน เอก ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ พี่ชาย เปิดเผยว่า ทราบว่าไม่สบายเมื่อเดือนก่อน ทราบแค่ว่าปวดหลัง โดยตั้วไม่บอกใครเลย ญาติพี่น้องไม่มีใครรู้ ลูกก็ไม่รู้ เขาอดทนเข้มแข็งแก้ปัญหาด้วยตัวเอง คิดว่าพอผ่านไปแล้วจะบอก อาการก็โอเค แต่พูดช้าลง ยักคิ้ว ยกมือได้ ได้คุยกันสองวันหลัง และช่วงที่ตั้วจะไป ตั้วนอนนิ่งๆ เหมือนหลับไปเฉยๆ เราเลยบอกว่า เหนื่อยก็หลับไปนะ ตื่นเมื่อไหร่ที่ไหนก็ช่างมัน ทุกคนมาส่ง ทุกคนสบายนะ เดี๋ยวก็เจอกันนะ ทุกคนไม่มีใครต้องห่วง สุดท้ายตั้วก็ค่อยๆ ไป

ช่วงก่อนหน้านั้น หมอบอกว่า ตั้วพยายามสู้ อัตราการเต้นหัวใจคงที่มาก จนกระทั่ง ประมาณทุ่มกว่า อัตราเต้นหัวใจค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ สงบจนไม่รู้จะว่ายังไง ซึ่งเขาเป็นแบบนี้มาตลอดไม่อยากให้ใครเดือดร้อน อยู่รพ. 6 วัน ตอนสุดท้ายยังให้ญาติพี่น้องกลับบ้านทันเคอร์ฟิวอีก เป็นสิ่งที่เราคุยกันขำๆ ว่า เขาเป็นคนที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนจนนาทีสุดท้าย สิ่งนี้จะเกิดกับใครก็ได้ ไม่มีใครคาดคิด เพราะฉะนั้นใช้เวลาทุกวัน ทุกขณะด้วยความไม่ประมาท ลองมองตั้วเป็นอุทาหรณ์

https://www.facebook.com/khaosod/videos/183039299786417/?t=0

cr. ข่าวสด


แชร์ข่าวนี้