กลุ่มปชช. บุกทำเนียบ ร้องเลิก พรก.ฉุกเฉิน ‘ก้าวไกล’ เสนอร่างเป็น พ.ร.บ.

226
แชร์ข่าวนี้

วันนี้ (18 มิ.ย.) ตัวแทนกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย คณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ (คปอ.) แนวร่วมนิสิต นักศึกษา และประชาชน นำโดย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นางสุวรรณา ตาลเหล็ก นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว นายกิตติธัช สุมาลย์นพ เดินทางมาร่วมตัวบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ถนนพิษณุโลก

เพื่ออ่านแถลงการณ์ถึงรัฐบาล เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยใช้พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ และเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งขยายเวลาการจ่ายเงินเยียวยา ให้ประชาชน5,000 บาท และขยายประโยชน์ทดแทนการหยุดงานชั่วคราวจาก 62% เป็น 75% ไปจนถึงสิ้นปี รวมทั้งประกันรายได้คนตกงานในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ลดเงินค่าลงทะเบียนระดับมหาวิทยาลัยลงอีก 50%

โดยนายพริษฐ์ และประชาชนตะโกนพร้อมกัน3ครั้งว่า “ยกเลิก” และอ่านแถลงการณ์ ว่า “ตามที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักรตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิค -19

จนส่งผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจอย่างรุนแรง มีคนว่างงานถึง 7 ล้านคน และฆ่าตัวตายอีกจำนวนมาก จนกระทั่งในทุกวันนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิต -19 รายใหม่ในประเทศเพิ่มขึ้นอีกติดต่อกันมาสามสัปดาห์แล้ว และในวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา รัฐได้ยกเลิกเคอร์ฟิวไปแล้ว

แสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดไวรัสโควิดในประเทศไทยยังอยู่ในระดับที่ยังสามารถควบคุมได้จึงไม่มีความจําเป็นที่จะต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีกต่อไปการที่รัฐบาลยังคงประกาศ ใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ต่อไปอีกจะส่งผลกระทบทําให้เศรษฐกิจตกต่ำยิ่งขึ้นไปอีกจะนำมาซึ่งความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนกันถ้วนหน้า

อีกทั้งเป็นการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินในการควบคุม จำกัด สิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นการรวมตัวร้องทุกข์ร้องเรียนความเดือดร้อนของประชาชนการแสดงออกทางการเมืองเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนทำให้ภาพลักษณ์ประเทศไทยตกต่ำเสียหายเพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นองค์กรนักเรียน นิสิตนักศึกษา เยาวชนองค์กรผู้ใช้แรงงานและองค์กรประชาชน

ทั้งนี้ในระหว่างตัวแทนกลุ่มต่างๆเรียกร้องรัฐบาลยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตัวแทนกลุ่มแอมนาสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ร่วมสังเกตการณ์ และแจกเอกสารเชิญชวนให้ประชาชนร่วมลงชื่อ ถึงนายกรัฐมนตรีกัมพูชา

ให้มีการสอบสวนอย่างมีประสิทธิภาพ และนำตัวผู้ต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการพิจารณาอย่างเป็นธรรม และปฏิบัติตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลมิให้สูญหายเกี่ยวกับการหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์

ด้าน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงถึงการเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. …. ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ว่า พรรคไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลยังคงบังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

โดยระบุเพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 ซึ่งพรรคมองว่าใช้กฎหมายปกติได้ และการใช้กฎหมายดังกล่าวก่อให้เกิดปัญหากระทบต่อสิทธิเสรีภาพประชาชน แม้จะอ้างเรื่องการคุมโรค แต่วันนี้ไม่มีตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้ว แสดงว่าไม่มีความชอบธรรมที่จะประกาศใช้อีกต่อไป

แต่เป็นการป้องกันไม่ให้วิจารณ์รัฐบาลมากกว่า จึงอยากถามว่ามีไว้เพื่อปกป้องประชาชนจากโรค หรือปกป้องรัฐบาลที่ไร้ประสิทธิภาพ หรือคงไว้เพื่อใช้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นด้วยหรือไม่ วันนี้สภาทำอะไรไม่ได้เลย เหมือนเป็นแค่เสือกระดาษ ที่ฝ่ายบริหารใช้อำนาจโดยไม่สนว่าจะกระทบประชาชนอย่างไร เมื่อรัฐบาลไม่ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พรรคจึงต้องเสนอร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะมีผลให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมีสาระสำคัญที่เปลี่ยนแปลง 4 ประการ ดังนี้

1.ให้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยฝ่ายบริหาร ใช้บังคับได้ไม่เกิน 30 วัน โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรภายใน 7 วันนับแต่วันประกาศ รวมถึงการขยายเวลาแต่ละครั้ง ต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาเช่นกัน และหลังสิ้นสุดการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน นายกฯต้องทำรายงานผลการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินต่อสภาด้วย

2.ยกเลิกอำนาจในการออกข้อกำหนดห้ามนำเสนอข่าวสาร เพื่อให้สื่อมีอิสระเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร

3.ยกเลิกข้อยกเว้นที่ให้ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง หรือการกระทำภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ให้อยู่ในเขตอำนาจของศาลปกครอง และยกเลิกข้อยกเว้นให้พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา และทางวินัย เพื่อให้การใช้อำนาจภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินถูกตรวจสอบได้โดยองค์กรตุลาการ

4.ในการจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่ต้องสงสัยภายใต้การประกาศสถานการณ์ที่มีความร้ายแรง จะต้องดำเนินการด้วยกระบวนการปกติ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เช่น ควบคุมตัวได้ไม่เกิน 48 ชั่วโมง และต้องควบคุมตัวภายในสถานีตำรวจ ที่ญาติและทนายความเข้าถึงได้

นายรังสิมนต์ กล่าวต่อว่า พรรคจะเดินหน้าผลักดันร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ผู้ใช้อำนาจต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน และใช้อำนาจโดยเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนอย่างแท้จริง รวมถึงการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย

cr. ข่าวสด


แชร์ข่าวนี้